#BBGI #ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1,370 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,340-1,350 แต่มีแนวต้านสำคัญที่ 1,380

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ BBGI หรือ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน)

ดำเนินธุรกิจโดยการเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจดังนี้ 

1. ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ เอทานอล ไบโอดีเซล และ

 2. ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 67 ขาดทุน 12 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.009 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 มีกำไรสุทธิ 1 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.001 บาท

ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ 147 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.102 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 66 ขาดทุน 69 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.048 บาท

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI เปิดเผยว่า ความคืบหน้าธุรกิจใหม่ เตรียมสร้าง New S-Curve ในปี 68 โดยโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เป็นตามแผน ณ สิ้นเดือนตุลาคมความคืบหน้างานก่อสร้างไปแล้ว 70% คาดพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ COD ในช่วงไตรมาส 2/2568

รวมทั้ง การบริหารตลอดห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจ พร้อมรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากภาคธุรกิจและประชาชนผ่านปั๊มบางจากมากกว่า 233 แห่ง ตามโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” และขยายเครือข่ายพันธมิตรเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม ทำให้มีความมั่นคงในการจัดหาวัตถุดิบ มุ่งสู่เป้าหมายช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมการบิน โดยเห็นสัญญาณที่ดีจากหลากหลายประเทศส่งเสริมการใช้น้ำมัน SAF มากขึ้น โดยในปี 2568 จะมีในกลุ่มประเทศยุโรป อังกฤษ และอินเดียจะเริ่มมีการกำหนดสัดส่วนการผสมของ SAF

ขณะที่ ความคืบหน้าธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง (CDMO) ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนก่อสร้างไปแล้ว 70% คาดในเฟสแรกจะเริ่ม COD ภายในปีหน้า เป็นฐานด้านไบโอเทคโนโลยีแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ตลาดโลก

ส่วนการปิดดีลการเข้าซื้อหุ้น บริษัท บีบีจีไอ ไบโอดีเซล จำกัด หรือ BBGI-BI ได้สำเร็จ สนับสนุนสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 100% จากเดิมถือหุ้น 70% และจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรใน BBGI–BI เข้ามาเต็มจำนวนตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป สนับสนุนผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง กำลังการผลิตตามสัดส่วนจะพุ่งทะยานแตะ 1,000,000 ลิตรต่อวัน จากเดิม 700,000 ลิตรต่อวันรองรับความต้องการกลุ่มบริษัทบางจาก

ภาพรวมปี 2568 ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพจะยังคงเติบโตจากยอดขายและปริมาณการขายที่อยู่ในระดับสูง ด้วยกลยุทธ์การใช้กำลังการผลิตเต็มกำลัง ทำให้บริษัท มีต้นทุนที่มีประสิทธิภาพจึงมั่นใจธุรกิจหลักจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อหุ้น BBGI-BI เข้ามาเสริมทัพ ตอกย้ำผู้นำในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ธุรกิจใหม่โครงการ SAF บริษัท ถือหุ้นในสัดส่วน 20% และโครงการ CDMO ถือหุ้นสัดส่วน 75% คาดว่าการก่อสร้างของโรงงานจะแล้วเสร็จในปีหน้า หนุนการเติบโตของธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพในมิติใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อการลดปริมาณคาร์บอนที่ส่งผลต่อภาวะเรือนกระจกได้เช่นเดียวกับธุรกิจไบโอดีเซลและเอทานอลได้อย่างมีนัยสำคัญ

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคบริเวณจุดต่ำสุดเดิมที่ 4.00 หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากระดับ 7.50 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.00 และ 5.30 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 4.14 ลงไป ควรขายหุ้นออกไปก่อน