#TU #ทันหุ้น – TU ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์ โบรกเกอร์มีมุมมองเป็นกลางถึงเชิงบวกให้คำแนะนำ “ถือ” และ “ซื้อ” มองว่าค่า P/E อยู่ในระดับ 11-12 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ประมาณ 4-5% โดยโบรกเกอร์มีความเห็นดังนี้
บล.กสิกรไทย : คาดกำไรไตรมาส 4/67 เติบโต YoY แต่ลดลง QoQ
บล.กสิกรไทยคาดกำไรปกติในไตรมาส 4/67 ทรงตัว YoY และลดลง QoQ จากผลกระทบของ GPM ที่ลดลง QoQ ในธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้น
ประมาณการยอดขายไตรมาส 4/67 ที่ 3.54 หมื่นลบ. (-0.2% YoY, +1.8 QoQ) โดยได้แรงหนุนหลักจากยอดขายอาหารทะเลและอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ GPM ไตรมาส 4/67 คาดจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ที่ 18.5%
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567-69 ลง 8%/10%/11% จากสมมติฐานอัดราภาษีใหม่คงคำแนะนำ "ถือ" โดยปรับ TP ใหม่เป็น 12.9 บาท จาก 14.9 บาท จาก upside ที่จำกัด
.
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : ระยะสั้นยังขาดปัจจัยกระตุ้น
บล.ดีบีเอสฯคาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 4/67 ลดลง -1.3% YoY, -15.8% QoQ เป็น 1.25พันล้านบาท ซึ่งการลดลง QoQ เกิดจากปัจจัยฤดูกาล และต้นทุนในการปรับโครงสร้างบริษัท ส่วนการลด YoY มาจากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งต้นทุนการปรับโครงสร้าง ต้นทุนค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายการตลาด ซึ่งมากกว่าการเพิ่มขึ้นของมาร์จิ้นและการไม่มีผลขาดทุนจาก Red Lobster นอกจากนั้นคาดว่ามีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 180ล้านบาทด้วย สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ 1.07พันล้านบาท (พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ 17.17 พันล้านบาท ในไตรมาส 4/66 แต่ลดลง -23.9% QoQ)
คงคำแนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 13.70 บาท อิงกับ P/E ปี 2568 ที่ 13.2 เท่า (Mean 5 ปี) โดยประเมินกำไรสุทธิปี 24 ลดลง -1% YoY ซึ่งเท่ากับประมาณการเดิม แต่ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568-69 ลงปีละ 10% สะท้อนอัตราภาษีรายได้ฯที่เพิ่มขึ้นตาม Global Minimum Tax Rate ไม่ต่ำกว่า 15%ซึ่งทำให้ทำให้กำไรสุทธิปี 68 ลดลง -5% แล้วค่อยกลับไปเติบโต +15% ในปี 69
.
บล.อินโนเวสท์เอกซ์ : พรีวิวไตรมาส 4/67 อ่อนแอกว่ากลุ่ม
บล.อินโนเวสท์เอกซ์คาดการณ์กําไรปกติไตรมาส 4/67 ของ TU ที่ 1.2 พันลบ. ทรงตัว YoY จากอัตรากําไรขั้นต้นที่สูงขึ้นจากธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปจะช่วยชดเชยอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่สูงขึ้นจากการมี transformation costs เพิ่มเติม แต่จะลดลง 19% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เราคาดว่ากําไรปกติไตรมาส 1/68 จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และทรงตัว/ลดลง YoY จาก transformation costs สูง ในระยะสั้นเรามองว่าแนวโน้มกําไรที่เปราะบางและ downside risk ที่อาจเกิดขึ้นจากเกณฑ์การจัดเก็บภาษี global minimum tax (-2-8% ต่อประมาณการกําไรปี 2568) จะทําให้ราคาหุ้นมี upside จํากัด แต่โครงการซื้อหุ้นคืนครั้งใหม่ (เริ่มตั้งแต่วันที่2 ม.ค. ถึง 30 มิ.ย.) จะช่วยจํากัด downside ของราคาหุ้น เราคงคําแนะนํา Neutral โดยมีราคาเป้าหมายกลางปี 2568 ที่ 15 บาท อ้างอิง PE 13.5 เท่า (-0.5S.D. จาก PE เฉลี่ย 10 ปี)
.
บล.บียอนด์ : คงคำแนะนำ "ซื้อ" ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 15.30 บาท (จากเดิม 18.00 บาท)
ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2567 และ 2568 ลง 7% และ 5% เป็น 4.56 พันล้านบาทและ 5.42พันล้านบาท ตามลำดับ หลังจากเพิ่มสมมติฐานอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายขึ้นอีก 0.25% เพื่อสะท้อนต้นทุนค่าใช้จ่ายโครงการ TU Transformation ที่เพิ่มขึ้น เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" จาก Upside และปันผลที่น่าสนใจ กำหนดราคาเป้าหมายของเราใหม่อยู่ที่ 15.80 บาทจากเดิม 18.00 บาทต่อ อิงจากกำไรต่อหุ้นปี 2568 ที่ 13.0x จากเดิม 14.0x เพื่อสะท้อนการเติบโตที่ลดลง
.
บล.ฟิลลิป : คาดยอดขายไตรมาส 4/67 Flat q-q และ y-y
คาดยอดขายไตรมาส 4/67 ที่ 35,200 ลบ. +1.0% q-q, -0.9% y-y และกำไรสุทธิ 1,327 ลบ. -5.3% q-q, +6.6% y-y เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 ยอดขายกลุ่ม Ambient คาดโตเล็กน้อย ขณะที่กลุ่ม PetCare และ Frozen ยอดขาย flat และอ่อนตัวตามลำดับ
ด้านยอดขายปี 67 คาด 138,543 ลบ. +1.8% กำไรสุทธิคาดที่ 5,099 ลบ. +13.3% จากการบริหารต้นทุนและส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐานปี 68: 16.90 บาท
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม