20 มกราคม 2025 เวลา 06:00 น.
โดยในเดือนก.ย. 2567 ที่ผ่านมา ยอดค้าปลีกเติบโตที่ 0.47% MoM แต่ลดลงเหลือเพียง 0.16% MoM ในเดือนพ.ย. สะท้อนถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการต่าง ๆ ก็ตาม ในขณะเดียวกันดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจก็สะท้อนสัญญาณเชิงลบ โดยแม้ว่าดัชนี Caixin PMI ภาคอุตสาหกรรมในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา จะอยู่ที่ระดับ 50.5 บ่งชี้ถึงการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แต่การเติบโตที่เกิดขึ้นกลับมีขนาดเล็กลงและชะลอตัวจากระดับ 51.5 ในเดือนพ.ย. เมื่อพิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆ ของดัชนีภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว จะ พบว่าสัญญาณเชิงลบปรากฏในหลายมิติแม้ว่า อุปสงค์ภายในประเทศจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยหนุนคำสั่งซื้อใหม่และผลักดันการผลิต แต่คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกกลับหดตัวลง ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ของภาคอุตสาหกรรม
จากแนวโน้มดังกล่าว ประเมินว่า สภาวะเศรษฐกิจภายนอกที่เปราะบางจะยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับเศรษฐกิจจีนในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้า ระหว่างจีนและสหรัฐ อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ซ้ำเติมความไม่แน่นอน และอาจสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจจีนในระยะกลาง
ที่มา: รายงานการจัดพอร์ตสินทรัพย์และแนวโน้มการลงทุน ประจำเดือน ม.ค. 2568
สัญญาณเชิงลบถัดมา คือ องค์ประกอบด้านการจ้างงานที่มีการหดตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยผู้ผลิตสินค้าเพื่อการลงทุน (Investment Products) และสินค้าขั้นกลาง (Intermediate Goods) มีการปลดคนงานอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังค่อนข้างทรงตัว ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวเป็นการสะท้อนภาพปลายวัฏจักร เศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เพราะผู้ผลิตมีท่าทีระมัดระวังในการจ้างงาน โดยเน้นการควบคุมต้นทุน สอดคล้องกับความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่อ่อนตัวลง โดยผู้ผลิตกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ ส่ง ผลให้คาดการณ์ผลผลิตในอนาคต (Future Output Expectations) ลดลงราว 3 จุดจากเดือนพ.ย. สะท้อนถึงความไม่มั่นใจต่อการเติบโตในระยะใกล้
อีกหนึ่งสัญญาณเชิงลบที่สำคัญ คือ แนวโน้มแรงกดดันด้านราคา โดยราคาขายลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย. สะท้อนถึงการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงท่ามกลางอุปสงค์ที่ซบเซา ผู้ผลิตเลือกที่จะรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเอง เพื่อรักษายอดขายไว้ความแตกต่างระหว่างต้นทุนที่สูงขึ้นและราคาขายที่ลดลงนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออัตรากำไร ซึ่งอาจ กระทบต่อการลงทุนและการขยายธุรกิจในอนาคต สำหรับองค์ประกอบที่ยังมีแนวโน้มเป็นบวก คือ สต๊อกการจัดซื้อ (Stocks of Purchases) ที่ยังเพิ่มขึ้น แต่เราคาดว่าผู้ผลิตอาจเพิ่มสต๊อกการจัดซื้อวัตถุดิบ เพื่อป้องกันความเสี่ยง จากความผันผวนของราคา อันเป็นผลมาจากสงครามการค้าในอนาคต มากกว่าการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่ออุปสงค์เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออกมีสัญญาณอ่อนแอลง
โดยสรุป ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจของจีนยังคงส่งสัญญาณเชิงลบ สะท้อนถึงความท้าทายที่เศรษฐกิจจีนต้องเผชิญในระยะข้างหน้า สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินมาตรการกระต้นุ เศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ ซึ่งทิศทางและรายละเอียดของมาตรการต่าง ๆ จะมีความชัดเจนยิ่งขึ้นในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ที่จะจัดขึ้นในเดือนมี.ค. นี้
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม