20 มกราคม 2025 เวลา 07:00 น.
#BA #CPAXT #ทันหุ้น
- วันจันทร์ ติดตาม Loan Prime Rate ของธนาคารกลางจีน ระยะเวลา 1 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.10% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า และ Loan Prime Rate ระยะเวลา 5 ปีคาดการณ์ไว้ที่ 3.60% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า
วันอังคาร - ติดตามอัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักร ครั้งก่อนหน้าที่ 4.3% รวมถึงดัชนีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจของยุโรป เทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ 17.0 ต่อด้วยรายงานดัชนีการสำรวจภาพรวมธุรกิจนอกภาคการผลิตของรัฐฟิลาเดลเฟีย เดือน ม.ค.เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -6.0 จุด
วันพุธ - ติดตามการให้สัมภาษณ์ของทางประธาน ECB Christine Lagarde ใน World Economic Forum ที่เมือง Davos
วันพฤหัสบดี - ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของยุโรป (EU CCI) เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -14.3 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -14.5 จุด และปิดท้ายด้วยการรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.17 แสนตำแหน่ง
วันศุกร์ - ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 3.4% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.9% YoY ต่อด้วยการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ตลาดคาดปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมาอยู่ที่ระดับ 0.50% จากเดิมที่ 0.25% และปิดท้ายด้วยตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ (US Existing home sale) เดือน ธ.ค. โดยตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 4.20 ล้านหลัง ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.15 ล้านหลัง รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้นเดือน ม.ค.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย : KS เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 1,320 – 1,360 จุด ปัจจัยต่างประเทศตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มปรับขึ้นหลังตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.9% ตามคาดและสูงกว่าครั้งก่อนหน้าที่ 2.7% แต่เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.2% น้อยกว่าคาดและครั้งก่อนที่ 3.3% ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปีปรับลดลง รวมถึงการรายงานงบไตรมาส 4 กลุ่มการเงินสหรัฐ ออกมาดีเกินคาดอย่าง JPMorgan, Wells Fargo, Goldman Sachs, Blackrock, Citigroup, Bank of America, Morgan Stanley ส่วน GDP จีนไตรมาส 4 ปี 2024 เติบโต 5.4% ส่งผลให้ทั้งปีเติบโตได้ 5% ตามเป้าหมายด้านตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวออกด้านข้างเชิงลบ เผชิญแรงขายจากกองทุน LTF ที่ YTD ขายไปแล้ว 1.3 หมื่นล้านบาท มากกว่าปกติ ขณะที่ปัจจัยหนุนจากโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ที่เริ่ม 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568 ลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท และ โครงการดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 2 ที่โอนเงินให้ผู้สูงอายุราว 3.5-4 ล้านคน วันที่ 27 ม.ค. 2568 สามารถเช็คสิทธิได้วันที่ 20-21 ม.ค. 2568
ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,320 – 1,360 จุด ตลาดยังถูกกดดันจากแรงขายกองทุน LTF ส่วนปัจจัยหนุนจากโครงการ Easy E-Receipt 2.0 และ Digital Wallet เฟส 2
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BA และแนะนำเก็งกำไรจากมูลค่าหุ้นที่ P/E 68 ลดลงเหลือประมาณ 10 เท่า โดยคาดว่าจะสามารถทำกำไรในไตรมาส 4/2567แม้จะมีค่าใช้จ่ายตามฤดูกาลสูงขึ้น ต่างจากไตรมาส 4ของปีก่อนๆ ที่ขาดทุนมาตลอด นอกจากนี้คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวในปี 2568 ที่คาดการณ์นักท่องเที่ยว 37.5-40 ล้านคน และโอกาสได้แรงหนุนจากการถ่ายทำซีรีส์ The White Lotus ซีซัน 3 ที่เกาะสมุย โดยคาดว่าไตรมาส 1/2568จะเป็นช่วงไฮซีซันของสมุย ส่งผลให้ BA มีโอกาสเติบโตแข็งแกร่งในปี 2568
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแผนกลยุทธ์ปี 2568 ของ CPAXT ที่ประกาศเมื่อวันที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าการเติบโตรายได้ในระดับเลขหลักเดียวสูง (High Single Digit) พร้อมเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นอีก 60 bps ในปีหน้า และมุ่งเน้นการเติบโตผ่านช่องทาง Omnichannel ที่คาดว่าจะมีอัตราการเข้าถึงเกิน 20% เทียบกับ 18% ในปี 2567 นอกจากนี้คาด การเติบโตของ EBITDA ในระดับสองหลัก รวมถึงประโยชน์จากการควบรวมกิจการที่จะสร้าง Synergy Value ราว 5,200 ล้านบาท ทั้งจากการประหยัดต้นทุนและการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นอีก 50 bps โดยจะรับรู้ทั้งหมดในงบกำไรขาดทุนภายใน 2 ปี
KS Research
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม