#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่บริเวณ 1,275 ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,300 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,315 และมีแนวต้านสำคัญที่ 1,340

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ BCPG หรือ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด รวมถึงลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด 

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 67 ขาดทุน 28 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.01 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 ที่มีกำไรสุทธิ 564 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.19 บาท

ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ 1,655 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.55 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 ที่มีกำไรสุทธิ 1,277 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.44 บาท

BCPG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2567 กลุ่มบริษัท มีกำไรสุทธิที่ 1,656 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 29.6%

สำหรับงวดไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,125 ล้านบาท สูงขึ้นจากไตรมาสที่ 2/2567 ร้อยละ 3.8 จากปัจจัยสำคัญๆ ได้แก่ รายได้ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป. ลาวเนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาล (High Season) ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลัง และรายได้ที่เพิ่มขึ้นของโครงการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือในประเทศไทย ที่กลุ่มบริษัท ได้เข้าซื้อกิจการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งรายได้ที่กล่าวถึงสามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงจากอัตราค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) ที่หมดไป และจากการขายโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น

ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการเติบโตสูงขึ้นเช่นกัน จากการจัดการแผนการซ่อมบำรุงที่มีประสิทธิภาพในไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลให้กลุ่มบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง กล่าวคือ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 453 ล้านบาท หรือเติบโตถึงร้อยละ 356 จากไตรมาสที่ 2/2567

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า เป้าหมายการเติบโตในปี 68 คาดว่าการเติบโตของกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มากกว่า 30% โดยมีสัดส่วนจากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติใช้เทคโนโลยี Combined Cycle Gas Turbine หรือ CCGT ในสหรัฐ ประมาณ 29% การลงทุนใหม่ๆ 25% พลังงานแสงอาทิตย์ 20% เขื่อน 12% Tank Terminal 11% และอื่นๆ โดยบริษัทวางงบลงทุนปี 68 ที่ 32,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนใหม่ๆ 58% และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 42%

สำหรับโครงการที่บริษัท อยู่ระหว่างการพัฒนาและดำเนินการ ได้แก่ การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 2 โครงการรวม 99 เมกะวัตต์(MW) คาดว่าการไฟฟ้าเวียดนามจะสามารถประกาศใช้เชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในช่วงไตรมาส 1/68 ซึ่งมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนและเงื่อนไขการชำระราคา คิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 3,394,932 ล้านดองเวียดนาม หรือประมาณ 4,508 ล้านบาท

ด้านโครงการพลังงานลม สปป.ลาว จำนวน 600 เมกะวัตต์ คาดว่าสิ้นปี 67 กังหันลม 133 ตัวสามารถดำเนินการได้ทั้งหมด ต้นปี 68 ทำการทดสอบระบบ และในช่วงครึ่งหลังปี 68 จะสามารถ COD ได้, โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีรายได้จากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังปี 68 จากโรงงานทั้ง 4 แห่ง, โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไต้หวัน จะสามารถเริ่ม COD ประมาณ 100 MW ช่วงไตรมาส 4/68

นอกจากนี้บริษัท ยังคงมองหาโครงการหรือการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทย ซึ่งภาครัฐบาลมีโครงการรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากทรัพยากรหมุนเวียน ตามปริมาณ และราคาที่รัฐกำหนด โดยบริษัท สนใจเข้าสมัครโครงการในรอบถัดไปคาดช่วงต้นปี 68 รวมถึงโครงการหลังคาโซลาร์เซลล์และข้อตกลงการซื้อไฟฟ้า (PPA) ส่วนตัว และมองการลงทุนพลังงานหมุนเวียนในประเทศอื่นๆ อย่างสปป.ลาว เวียดนาม ฟิลลิปปินส์ และออสเตรเลีย

ปัจจุบันบริษัท มีกำลังการผลิตรวม 2,053 MW ซึ่งมีเป้าหมายในปี 2573 บริษัท จะเข้าตลาดหมวด SET50 และมีกำลังการผลิตเป็น 2,800 MW ซึ่งจะลงทุนในธุรกิจสีเขียวมากขึ้นเป็นสัดส่วน 70% จากปัจจุบันอยุู่ที่ 38%

ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิค หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 6.70 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับที่ 6.00 และ 5.70 แต่ถ้าปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับที่ 5.50 ควรใช้เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/61573003940584

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/