SCBAMมองหุ้นสหรัฐปี68ไปต่อ เปิดโปรDCAกองประหยัดภาษี

#บลจ.ไทยพาณิชย์#ทันหุ้น- บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดกองทุนใหม่ SCBUSFOCUS โอกาสเติบโตมั่นคงในทุกจังหวะกับหุ้น Core สหรัฐ ผสานความเชี่ยวชาญระดับโลก และการคัดเลือกหุ้นด้วยเทคโนโลยี AI พร้อมเสนอขายวันที่ 4-10 ก.พ. 68 พร้อมเดินหน้าจัดโปร DCA 3 เดือน ในกองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG และ RMF รับ Fund Back สูงสุด 1,600 บาท

นางสาวพิณแก้ว ทรายแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด สายการตลาดและช่องทางการขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เผยมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐ ว่ายังมีสัญญาณการขยายตัวได้ ความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยลดน้อยลง ประกอบกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นการลดกฎระเบียบ การปรับลดภาษีนิติบุคคล รวมถึงการสนับสนุนและส่งเสริมเทคโนโลยี AI ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในภาคเศรษฐกิจของสหรัฐ ได้มากขึ้น ปัจจัยดังกล้าวหนุนการเพิ่มอัตรากำไรของธุรกิจต่างๆ ในสหรัฐ และส่งผลต่อเนื่องมาถึงบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นสหรัฐ ด้วย

*หุ้นพื้นฐานดี

ทั้งนี้ SCBAM มองว่า หากการลงทุนในหุ้นสหรัฐ มีการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์การลงทุนได้ดี มีกลยุทธ์และแนวการบริหารจัดสรรทรัพย์สินลงทุนอย่างมีระบบระเบียบ จะยิ่งช่วยตอบโจทย์การลงทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มีเสถียรภาพได้มากขึ้นSCBAM จึงออกกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ US Sustainable Core Focus Equity (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือ SCBUSFOCUS(A) ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นสหรัฐ ที่คัดสรรและลงทุนเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีศักยภาพการเติบโตที่มีเสถียรภาพ มีความมั่นคงและยั่งยืนได้ในระยะยาว เสนอขายครั้งแรกวันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2568 นี้

กองทุน SCBUSFOCUS(A) เน้นลงทุนหุ้นCore Equity สหรัฐ ที่คัดเลือกและกระจายลงทุนในหุ้นบริษัททุกขนาดจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีความมั่นคง มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน มีผลประกอบการดีและมีศักยภาพการเติบโตได้ในระยะยาว ประมาณ 150 - 350 ตัว ผ่านกองทุนหลัก BlackRock Sustainable Advantage US Equity Fund ที่บริหารโดยBlackRock หนึ่งในผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดหุ้นสหรัฐ มาอย่างยาวนาน

*นโยบายเชิงรุก

กองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนเชิงรุก และใช้แบบจำลองเชิงปริมาณคัดเลือกหุ้น Core Equity อย่างเป็นระบบจากทีมผู้เชี่ยวชาญ ผสานกับเทคโนโลยี AIที่มีการปรับและพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาร่วมคัดสรรและบริหารจัดการลงทุนตามกรอบกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น4 ลักษณะเด่น คือ ปัจจัยพื้นฐาน ความเชื่อมั่นตลาด ธีมเศรษฐกิจระดับมหภาค และปัจจัยด้าน ESG เพื่อมุ่งหาโอกาสสร้างผลตอบแทนเหนือตลาด

โดยมีเป้าหมายสร้าง Beta =1 และ Tracking Error ประมาณ 2% เมื่อเทียบกับดัชนีMSCI USA (กองทุนหลักได้รับ Morningstar 5 ดาว ประเภท EAA Fund US Large-Cap Blend Equity ณ 31 ธันวาคม 2567 และMorningstar Medalist Rating ระดับ Gold** ณ 30 พ.ย. 2567)

นางสาวพิณแก้ว กล่าวต่อว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของหุ้นสหรัฐทำให้กองทุน SCBUSFOCUS(A) ที่ลงทุนเชิงรุกในหุ้นกลุ่ม Core Equity ของสหรัฐ จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับการลงทุนท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆ ทั่วโลกในปีนี้ อีกทั้ง หุ้นกลุ่มนี้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสามารถปรับตัวได้ดีในทุกสภาวะเศรษฐกิจ จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการเสริมพอร์ตให้แข็งแกร่งและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้

*โปร DCA กองประหยันภาษี

นอกจากนี้ บลจ. ไทยพาณิชย์ ยังได้จัดโปรโมชั่น มอบ Fund Back สูงสุด 1,600 บาท เมื่อลงทุน DCA กองทุน Thai ESG และ RMF เริ่ม 3 ก.พ. 68 ถึง 30 เม.ย. 68 กองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG และ RMF ของ SCBAM ปัจจุบันมีให้เลือกครบตอบโจทย์ทุกความต้องการลงทุน นำโดยกลุ่มกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน Thai ESG ซึ่ง SCBAM มีอยู่ 5 กองทุน ครอบคลุมการลงทุนทั้งหุ้นไทยแอคทีฟ หุ้นไทยพาสซีฟ หุ้นไทยปันผล ตราสารหนี้ และแบบผสม 

โดยกองทุนแนะนำ ได้แก่ กองทุน SCBTM(ThaiESG) ที่ลงทุนทั้งในตราสารหนี้และหุ้นไทยของบริษัทโดดเด่นด้าน ESG และอีกหนึ่งกองทุน SCBTP(ThaiESG) ลงทุนหุ้นไทยตามดัชนี SETESG

ในส่วนของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF มีให้เลือกกว่า 28 กองทุน ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งแบบการลงทุนเชิงรุก (Active Fund) และกองทุนดัชนีเด่น ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนและปรับพอร์ตให้สอดรับกับสถานการณ์ตลาดได้ทุกจังหวะ โดยกองทุนแนะนำ

 ได้แก่ กองทุน SCBRMS&P500 ที่ลงทุนตามดัชนี S&P500 สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐและกองทุน SCBRMNDQ ที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐ ตามดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งทั้ง 2 กองทุนมีโอกาสเติบโตตามเศรษฐกิจสหรัฐ และเหมาะกับการทยอยลงทุนสะสมระยะยาว