#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงต่อเนื่องลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,300 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,315 แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1,275-1,280 น่าจะเป็นแนวรับสำคัญ และมีโอกาสฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 1,315 และ 1,340 เป็นแนวต้านสำคัญ

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ SISB หรือ บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งใช้หลักสูตรการศึกษาของประเทศสิงคโปร์เป็นหลักสูตรพื้นฐาน โดยได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน ปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติภายในกลุ่มบริษัท 5 โรงเรียน

ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 67 มีกำไร 218 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.23 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 ที่มีกำไรสุทธิ 128 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.14 บาท

ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ 639 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.68 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 ที่มีกำไรสุทธิ 442 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.47 บาท

SISB รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 มีรายได้รวม 606.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23.02% เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้เติบโต จากมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น 230 คน ซึ่งเป็นผลจากการเปิดปีการศึกษาใหม่ในช่วงเดือนสิงหาคม 2567

ทั้งนี้ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 1,747.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 387.84 ล้านบาท หรือ 28.53% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แ มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 390 คน โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 4,587 คน

นาย ยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB เปิดเผยใน Opportunity Day ว่า การเติบโตของรายได้ในปี 68 คาดว่าจะอยู่ในระดับ 15-20% เนื่องจากเด็กนักเรียนที่ยังเรียนต่อเนื่องถึงระดับมัธยม ประกอบกับยังมีนักเรียนใหม่เพิ่มเข้ามา ซึ่งทิศทางความต้องการในหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยยังมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยเรื่องใช้ภาษาอังกฤษ, เป็นหลักสูตรจากนานาชาติ, สถานที่ทันสมัยรองรับความสนใจหลากหลายแขนง, จำนวนนักเรียนต่อครูสอนประมาณ 10 ต่อ 1 ส่งผลให้ครูมีเวลาดูแลนักเรียนได้ทั่วถึง

ส่วนเป้าหมายนักเรียนในปี 68คาดว่าจะมียอดรวมทั้งสิ้น 5,000 คน และ ณ สิ้นปี 69 คาดว่าจะมีนักเรียนประมาณ 5,600 คน โดยคาดว่าสิ้นปี 69 รายได้จะเพิ่มเป็น 3,100 ล้านบาท จากสิ้นปี 66 ที่กว่า 1,900 ล้านบาท ทั้งนี้สิ้นสุดไตรมาส 3/67 บริษัท มีนักเรียนทั้งสิ้น 4,587 คน ใกล้เคียงกับเป้าหมายทั้งปี 67 ที่ 4,600 คน

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/67คาดว่าผลงานสดใส รับการเปิดภาคเรียนใหม่ช่วงส.ค.-ก.ย. ซึ่งจะมียอดนักเรียนเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงนี้ทุกปี นอกจากนี้บริษัท ปรับเพิ่มค่าเทอมในปีการศึกษาใหม่โดยเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นปีละ 3-5% โดยคาดว่าในไตรมาสดังกล่าวจะมีผลประกอบการดีที่สุดในปี 67

ด้านความคืบหน้าการดำเนินการต่างๆ ทั้ง สาขาประชาอุทิศ ซึ่งขยายเฟส 3 จำนวน 600 ที่นั่งสำหรับมัธยมปลาย(เกรด9-12) คาดม.ค. 69 เปิดให้บริการ, สาขาธนบุรีเฟส3.2 เพิ่ม 600 ที่นั่ง ซึ่งปัจจุบันรอความชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงผังเมืองก่อน และโครงการสาขาโรงเรียนแห่งที่ 7 ซึ่งล่าสุดบริษัท ได้เข้าซื้อที่ดินประมาณ 20 ไร่ โซนรังสิต-นครนายก คลอง 3 โดยคาดว่าจะสามารถบริการได้ในช่วงไตรมาส 4/69 สามารถรองรับนักเรียนเต็มจำนวนได้ถึง 1,000 ที่นั่ง ตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาลถึงมัธยม 6 ซึ่งเบื้องต้นจะทยอยรับนักเรียนเพิ่มในแต่ระดับชั้นก่อน

ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 23.50-24.00 หลังจากปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 29.00 และ 30.00 เป็นแนวต้านสำคัญ

ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์

https://www.facebook.com/thunhoonnews