17 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 06:00 น.
ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ IoT เช่น ระบบ Home automation และ เสาไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart pole) มีการพัฒนาทีม IT Solution รับงานให้คำปรึกษา วางแผน จำหน่ายและสร้างระบบ Software รวมถึงให้บริการหลังการขาย นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Software ของบริษัทเองเพื่อใช้กับอุปกรณ์อัจฉริยะที่บริษัทพัฒนาขึ้น และมีการตั้งบริษัทย่อยร่วมกับ Siam AI ชื่อบริษัท ไลท์อัพ เอไอ โซลูชั่น จำกัด เพื่อ ประกอบธุรกิจด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทุกรูปแบบ
ซึ่ง Siam AI มีแผนลงทุนในธุรกิจ GPU Server เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่ต้องการจะตั้ง Server ในไทย ในช่วง 3 ปีข้างหน้าราว 1.0 แสนล้านบาทโดยงานในมือที่เห็น ความต้องการ ณ ขณะนี้มีความต้องการใช้งาน Commissioning ในปี 2025 ไม่น้อยกว่า 5.0 พันล้านบาท ซึ่งเราคาดว่างานทั้งหมดจะเป็นโอกาสของ LTS แต่เพื่อความระมัดระวัง นักวิเคราะห์ของเราจึงรวมไว้เพียง 15% ของมูลค่างานดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดเป็นรายได้ของ LTS ด้วยอัตรากำไรสุทธิที่คาดไว้ค่อนข้าง Conservative เพียง 7.2%
ส่วนงานแรกที่คาดว่าจะได้รับอย่างเป็นทางการคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายใน 1Q/25 และอาจใช้เวลาในการดำเนินการไม่นาน จึงมีโอกาสที่จะสามารถรับรู้รายได้บางส่วนหรือทั้งหมดใน 1Q/25 เมื่อประกอบกับรายได้ให้เช่า GPU ที่จะเริ่มเข้ามาเป็นไตรมาสแรก ทำให้กำไร 1Q/25 อาจทำระดับสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง และคาดว่างาน Commissioning จะมีต่อเนื่องทุกไตรมาสของปีนี้
นอกจากนี้ยังมีงานเสาไฟอัจฉริยะที่คาดว่าจะได้งาน อย่างน้อย 1 –2 จังหวัดในช่วง 1H/25 ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทมีแผนเติบโตแบบ Inorganic ด้วยการซื้อหรือ ควบรวมกิจการ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา โดยเน้นธุรกิจด้าน IT และเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดความเชี่ยวชาญของบริษัท ซึ่งต้องเป็นบริษัทที่มีกำไรอยู่แล้วและสามารถทำให้กำไรเติบโตมากขึ้นหลัง M&A ซึ่งเราคาดว่าจะชัดเจนใน 1H/25 เช่นกัน
ส่วนในด้าน Valuation ด้วยความที่ราคาหุ้นปรับฐานลงมามาก ตามทิศทางทาง SET INDEX ที่อ่อนแรง ทำให้ PER2025 เหลือเพียง 13.1 เท่า ซึ่งผมมองว่าเป็นโอกาสสะสม เพราะ 1. คาดกำไรปี 2025 โต 89% YoY เป็น 145 ล้านบาท และคาดโตต่ออีก 20% YoY เป็น 174 ล้านบาท ในปี 2026 2. ฐานะทางการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash และ 3. ให้ ROE สูงถึง 32% ในช่วงปี 2025-2026 ผมจึงมอง LTS เป็น Growth Stock ที่น่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะเติบโตด้วย New S-Curveที่อิงอยู่กับการพัฒนา AI, Cloud, Data Center แล้ว Valuation ปัจจุบันยังอยู่ในโซนที่ถูกมากด้วย
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ประเมินราคาเหมาะสมที่ 21.00 บาท มี Upside 128% ส่วนทางเทคนิค มีแนวรับที่ 8.70-9.00 บาท และแนวต้านที่ 10.30 บาท และ 11.30 บาท ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก SET INDEX ยังแกว่งตัวผันผวน จากทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน การลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก จึงต้องอาศัยความอดทนเพื่อต่อสู้กับความผันผวนที่สูงกว่าปกติ เพราะฉะนั้น LTS จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงนะครับ
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนทุกด้าน พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม