19 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 06:50 น.
#ทันหุ้น-STA รายงานกำไรสุทธิ 4Q/24 เท่ากับ 854.3 ล้านบาท +65.2%QoQและพลิกกลับมามีกำไรจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 492.7 ล้านบาท ต่ำกว่าที่Bloomberg คาดราว 31% จาก GPM ที่ต่ำกว่าคาดมาที่ 7.5% จากไตรมาสก่อนที่ 10.4% และปีก่อนที่ 9.1% สาเหตุจาก GPM ของธุรกิจยางธรรมชาติที่ลดลงมาอยู่ที่ 7.3% (3Q/24 = 11.8%) ตามต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ด้าน GPM ของถุงมือยางเพิ่มขึ้นเป็น 8.3% (3Q/24 = 5.0%)จากปริมาณการผลิตและการขายที่ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง ด้านรายได้ปรับเพิ่มขึ้น +5.2%QoQ, +35.8%YoYจากราคาขายและปริมาณการขายยาง และถุงมือยางที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ในงวดมีปริมาณการขายยาง EUDR 6.88 หมื่นตัน +9.7%QoQ
ส่วนภาพทั้งปี 24 รายงานรายได้รวม 1.1 แสนล้านบาท +35.8%YoY กำไรสุทธิเท่ากับ 1.67 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนในปีก่อนที่ 456 ล้านบาท มีปัจจัยหนุนจากราคายางที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงมีวัตถุดิบเพียงพอต่างจากปีก่อนที่มีปัญหาจากผลกระทบจากเอลนีโญ รวมถึงรับผลบวกจากการส่งมอบยาง EUDR ในปีนี้ ขณะที่ปริมาณการขายถุงมือยางเพิ่มขึ้น และยังมีความสามารถในการแข่งขัน
นอกจากนี้ยังประกาศจ่ายปันผล 1 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Div.yield 6% ขึ้น XD 18 เม.ย.
ผู้บริหารคาดการณ์อุตสาหกรรมยางพารา โดยคาดว่า ราคายางเฉลี่ยจะไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ยทั้งปี 174.3 เซ็นต์ต่อกิโลกรัม โดยราคายาง TSR20 ณ ตลาด SICOM เดือนมกราคม 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 193.8 เซ็นต์ต่อกิโลกรัม ใกล้เคียงกับ 4Q/24 และสถานการณ์ล่าสุดราคายางเฉลี่ยถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ยังคงสูงกว่า 190 เซ็นต์ต่อกิโลกรัม ขณะที่ความต้องการใช้ยางธรรมชาติจากอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ยางล้อ, ถุงมือยาง ฯลฯ คาดว่ายังเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยเริ่มเห็นการฟื้นตัวของดีมานด์จากจีนที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่
อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้ยาง EUDR อาจชะลอตัวบ้าง เนื่องจากสหภาพยุโรปเลื่อนการบังคับใช้ข้อกำหนด EUDR เป็น ณ สิ้นปี 2568 จากสิ้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังรับอานิสงส์บวกจากการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าถุงมือยางทางการแพทย์และถุงมือผ่าตัดจากจีน รวมถึงการออกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดของบราซิล ซึ่งบริษัท มีภาระภาษีต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับผู้ผลิตจากประเทศอื่นๆ อาทิ จีน มาเลเซีย ทั้งนี้ บริษัทจะมี Analyst meeting 21 ก.พ.นี้
ส่วนแนวโน้ม 1Q/25Fคาดจะพลิกกลับมามีกำไร YoY แต่ชะลอตัวลง QoQตามสถานการณ์ต้นทุนวัตุดิบที่สูงขึ้นกดดัน GPM ทั้งนี้ Bloomberg ประเมินกำไรสุทธิปี 25-26F เท่ากับ 2.49 พันล้านบาท +37.9%YoY และ 2.85 พันล้านบาท +20.7%YoYโดยโมเมนตัมจะโดดเด่นช่วง 2H/25 ด้านราคาเป้าหมายเฉลี่ยเท่ากับ 22.72 บาท
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นระดับราคาและแท่งเทียนสัญญาณบวกแกว่งตัวยืนเหนือSMA5วันที่ตัดSMA13วันขึ้นมา(Golden Cross)ได้อย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นรูปแบบV-Shape ระหว่างวันผ่านยืนจุดสุงแท่งเทียนรอบก่อนหน้า 16.40 สัญญาณบวกยืนยันรูปแบบ แนวต้านหลัก 17/17.40
คำแนะนำ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 17/17.40
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 16.40/16-15.80ไม่ควรต่ำกว่าลงมา
ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม