#COCOCO #ทันหุ้น-โบรกเกอร์ ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด(มหาชน) หรือ COCOCO ซึ่งยังคงแนะนำซื้อ เพราะมองว่าผลประกอบการในปี 2568 จะมีกำไรที่เติบโต จากปีก่อน จากความต้องการน้ำมะพร้าวที่ยังมีอยู่มาก รวมถึงบริษัทที่มีการขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลง  underperform ตลาดมากในช่วงที่ผ่านมา 

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้น COCOCO ให้ราคาเป้าหมายที่ 11.60 บาท แต่ในระยะสั้นราคาหุ้นยังขาดปัจจัยหนุนหรือ Catalyst เชิงบวก จึงเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว 

ในเบื้องต้นฝ่ายวิจัยหยวนต้า ประเมินว่ากำไรปกติงวดไตรมาส 1/68 ของ COCOCO จะกลับมาฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน หรือ QoQ ได้ โดยมีปัจจัยหนุนจากการผ่านพ้นช่วงโลว์ซีซั่น ส่งผลให้ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้น หรือ GPM ที่คาดกลับมาฟื้นตัว จากการปรับขึ้นราคาขายสินค้ากลุ่มน้ำกะทิ และน้ำมะพร้าว อย่างไรก็ตามหากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ YoY กำไรปกติงวดไตรมาส 1/68 จะทำได้เพียงทรงตัว เนื่องจาก

ฐานที่สูงในไตรมาส 1/67 โดยมี GPM สูงที่ระดับ 26.7% 

ทั้งนี้คาดว่ากำไรปกติมีโอกาสมาเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ได้อีกครั้งในไตรมาส 2/68 และไตรมาส 3/68 หนุนจากการเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้ารายใหญ่รายใหม่สำหรับการรับจ้างผลิตสินค้ากลุ่มน้ำกะทิ และอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงการรับรู้ผลของการปรับขึ้นราคาขายเต็มไตรมาส 

นอกจากนี้ประเมินว่าราคามะพร้าวมีโอกาสปรับตัวลงตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2568 จากการเข้าสู่ช่วงฤดูฝน รวมถึงการได้รับผลของลานีญาที่ทำให้อากาศเย็นลงกว่าปกติเป็นบวกต่อแนวโน้มผลผลิตมะพร้าวเป็น upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการปี 2568 

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัย คาดการณ์ว่ากำไรปกติปี 2568 ของ COCOCO จะอยู่ที่ 930 ล้านบาท เติบโต 29.4% จากปีก่อน 

บล.ดาโอ(ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้น COCOCO เช่นกัน แต่ได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 11.50 บาท จากเดิมอยู่ที่ 15.00 บาท เนื่องจากได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 25% มาอยู่ที่ 868 ล้านบาท เติบโต 30% จากเดิมมองอยู่ที่ 1,157 ล้านบาท และคาดรายได้ปี 2568 ยังเติบโตได้ดีมากกว่า 30% ซึ่งเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แต่ GPM อาจจะยังไม่สามารถขยายตัวได้ดีนักหากมีการเพิ่มฐานการผลิต แม้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนที่ยังคาดว่ามีความต้องการน้ำมะพร้าวมากขึ้น ประกอบกับต้นทุนของขวด PET ที่ต่ำกว่าทำให้ต้นทุนขายที่ต่ำลง และกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น จากการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ 

ขณะที่ราคาหุ้น COCOCO ปรับตัวลง  underperform ตลาดมากในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลต่อราคาวัตถุดิบและอัตราแลกเปลี่ยนที่ เป็นตัวกดดันผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/67 อย่างไรก็ตามยังแนะนำซื้อ เพราะคาดในปี 2568 มีการเติบโต จากการขยายฐานลูกค้ามากขึ้น และการส่งออกน้ำมะพร้าวของประเทศไทยที่เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูง 

ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์

https://www.facebook.com/thunhoonnews