เคาะ CKP

#ทันหุ้น-CKP รายงานกำไรสุทธิปี 24 เท่ากับ 1.3 พันล้านบาท -8%YoY จากรายได้ขายไฟฟ้าและไอน้ำ, รายได้อื่น และส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ JV ที่ลดลงเป็นหลัก โดยรายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำ ลดลงเล็กน้อย 0.8%YoY จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ BIC (บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น) และ BKC (พลังงานแสงอาทิตย์) แต่ได้โรงไฟฟ้าพลังน้ำ NN2 (น้ำงึม2) ที่ปรับตัวขึ้น 25.3%YoY ช่วยพยุงรายได้ ซึ่งผู้ซื้อไฟฟ้าหลักยังเป็น กฟผ. -1.1%YoY ขณะที่ลูกค้าอุตสาหกรรมยังปรับเพิ่มขึ้นได้บ้าง +1.8%YoY ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก JV ปรับตัวลงราว 33%YoYจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (XPCL) ที่เป็นช่วง Low Season และฐานที่สูง QoQ รวมถึงมีการปิดซ่อมบำรุงเชิงป้องกันในงวด และมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตามค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ด้าน EBITDA เท่ากับ 5.55 พันล้านบาท +8%YoY สะท้อนความมั่นคงของกระแสเงินสดของบริษัท แม้จะเผชิญกับวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวนและอยู่ในระดับสูง

แนวโน้มปี 25F จะโดดเด่นในช่วง 2H/25 เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกของปี เป็นช่วงฤดูแล้ง แต่แนวโน้มผลการดำเนินงานคาดว่าจะดีกว่าปีก่อน จากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของ NN2 สูงกว่าปีก่อน ทำให้สามารถประกาศความพร้อมจ่ายไฟฟ้าเดือนมกราคมได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 5% สอดรับกับทิศทางของปริมาณน้ำไหลผ่าน XPCL ซึ่งในเดือนมกราคม ที่ผ่านมามีปริมาณสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนจากอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานีญาและคาดว่าทั้งปีจะไม่มีการปิดซ่อมบำรุง ส่วนโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ที่จัดจำหน่ายให้ BEM ทั้งสิ้น 3 โครงการ มีกำลังการผลิต 7 MW คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จครบทุกโครงการในช่วง 2Q/25F

ในเชิง Sentiment รับปัจจัยบวกจากกนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง Surprise ตลาด ประกอบกับการไถ่ถอนหุ้นกู้มูลค่า 1,400 ล้านบาทของ NN2 ในปีที่ผ่านมาช่วยลดภาระทางการเงินไปได้อีกพอสมควร ด้าน Bloomberg ประเมินกำไรปี 25-26F เท่ากับ 1.65 พันล้านบาท +23.4%YoY และ 1.78 พันล้านบาท +3%YoY ตามลำดับ มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 3.82 บาท

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นปรับตัวลงสร้างแนวรับหลัก Triple Bottom 2.60-2.58 ยืนเหนือมั่นคงและกลับตัวขึ้นด้วยแท่งเทียนสัญญาณบวก แนวโน้มแกว่งตัวขึ้นตามกันกับSMA5วันและ13วันทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้นบริเวณ 2.74-2.70 แนวต้านจุดสูงรอบก่อนหน้า 2.92 ผ่านยืนสัญญาณซื้อจบรอบขาลง

คำแนะนำASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 2.92/3.08
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 2.74-2.70/2.58 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา