บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า งบปี 2567 บริษัท(รวมเงินลงทุนในบริษัทร่วม) และเฉพาะกิจการมีผลกำไรสทธิจำนวนวน 754.36 ล้านบาท และ 749.88 ล้านบาท ตามลำดับ 

งบการเงินที่แสดงตามวิธีส่วนได้เสียมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 98.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.09 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2566เป็นผลที่เกิดมาจากปัจจัยหลายประการดังนี้ ในปี 2567 เบี้ยประกันภัยรับโดยรวมของบริษัทเติบโดขึ้นร้อยละ 6.93 โดยมีการเดิบโดทั้งประกันภัยรถยนต์และประกันภัยทั่วไป เป็นผลมาจากการขยายช่องทางขายและการ cross sell ผลิตภัณฑ์ และเพิ่มอัตราส่วนงานต่ออายุให้มากขึ้น

ค่าใช้จ่ายสินไหมเพิ่มขึ้นในส่วนของงานประกันภัยรถยนด์และงานประกันภัยทั่วไป เป็นผลมาจากการขยายตัวของงานรับประกันภัยของบริษัท และการเกิดภัยธรรมชาติอุทกภัยในช่วงไดรมาส3 และไตรมาส4

เบี้ยประกันภัยรับรวมสำหรับปี2567 ประกอบด้วยเบี้ยประกันภัยรับ 18,971.47 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยจากการรับประกันภัยต่อจำนวน 16.16 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับ รวมเพิ่มขึ้นในอัดราร้อยละ 6.93 

โดยเบี้ยประกันภัยรับสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 10,911.46 ล้นบาทเป็น11,402.61 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.50 ในส่วนของเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้เพิ่มขึ้นจาก 10,029.22 ล้านบาท เป็น 11,218.74 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.86 จากงานประกันภัยรถยนด์และประกันภัยทั่วไป และรายได้ค่าบำเหน็จและนายหน้าเพิ่มขึ้นจำนวน 6.46 ล้านบาทหรือร้อยละ 0.33

รายได้และกำไรจากการลงทุนในหลักทรัพย์และรายได้อื่นสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 38.49 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนคิดเป็นอัตราร้อยละ 6.62 มาจากผลกำไรจากเงินลงทุนที่ครบกำหนด

ค่าใช้จ่ายสินไหมทดแทนสุทธิจำนวน 6,547.86 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 15.58 จากปีก่อนโดยอัตราสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของงานรับประกันภัยของบริษัท และการเกิดภัดภัยธรรมชาติอุทกภัยในช่วงไดรมาส 3 และไตรมาส 4

ทั้งนี้ MTI มีมติ จ่ายปันผลเป็นเงินสด 8.00 บาทต่อหุ้น สำหรับงบปี2567 แยกเป็นจ่ายจากกำไรสุทธิ 7.9986 บาทต่อหุ้น จ่ายจากกำไรสุทธิ ส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 0.0014 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 13 พ.ค. 2568 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD)11 มี.ค. 2568