IVL วางแผนการเติบโต โบรกมองปี 68 มีกำไร

#IVL #ทันหุ้น - บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL วันที่ 6 มี.ค.68 ราคาปิดที่ 20.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มูลค่าการซื้อขาย 967 ล้านบาท การซื้อขายระหว่างวันราคาเคลื่อนไหวในช่วง 20.40-21.80 บาท

บริษัทแถลงแผนการดำเนินงาน 3 ปี ในงาน Capital Market Day โบรกเกอร์มีมุมมองเชิงบวกคาดการณ์ในปี 2568 บริษัทจะมีผลการดำเนินงานกำไร 9.6-1.1 หมื่นล้านบาท โบรกเกอร์ให้คำแนะนำ “ซื้อ” และ “ซื้อเก็งกำไร”

บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ระบุว่า IVL เปิดเผยแผนธุรกิจ IVL 2.0 ระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยจะมุ่งเน้นเพิ่ม EBITDA +35% สู่ $2.05b ควบคู่กับการลดหนี้สิน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและฐานะการเงิน

คาด 2ธุรกิจที่เคยประกาศแผน IPO เอาไว้ จะดำเนินการสำเร็จในปีหน้า ซึ่งคาดระดมทุนได้ $1.0b

เข้าสู่โหมดการเติบโต; กำไรปีนี้เติบโตสูง จากการไม่มีตั้งด้อยค่า ปริมาณขายเพิ่มชื้น และอัตรากำไรเพิ่มขึ้นจากการลดต้นทุน

คงคำแนะนำ "ซื้อ" จากประเด็นหนุนจากกำไรเติบโตสูงในปีนี้ ขณะที่หุ้นยังซื้อขายใกล้เคียงมูลค่าบัญชี

บล.กรุงศรีระบุว่า IVL มุ่งลดค่าใช้จ่าย ระยะยาวเจาะอินเดีย

บล.กรุงศรีคงคำแนะนำ Trading Buy ต่อ IVL ที่ราคาเหมาะสมปี 68 ที่ 24.00 บาท/หุ้น สามารถซื้อเก็งกำไรรับการฟื้นตัวของ PET spread ในช่วงไตรมาส 2/68 (high season) และการฟื้นตัวของกำไรในไตรมาส 1/68 จาก stock loss ที่ลดลงรวมถึงกำไรปกติฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2568-69 จากค่าใช้จ่ายคงที่ลดลงเต็มปี และ อัตรากำไรผลิตภัณฑ์หลักอย่าง PET ฟื้นตัวจาก oversupply ที่ลดลง นอกจากนี้ยังอาจมี upside หากบริษัทเจาะตลาดเอเชียได้ตามเป้าที่เปิดเผยในงาน Capital Markets Day 2025

บล.ทิสโก้ระบุว่า IVL จัดการประชุมนักวิเคราะห์ประจำปี ในปีนี้ จุดเด่นเน้นอยู่ที่การประกาศโครงการเติบโตใหม่ของบริษัท รวมถึงแผนการปรับสินทรัพย์ และเป้าหมายระยะกลาง

แผนการปรับสินทรัพย์และการปลดล็อกมูลค่าสินทรัพย์เป็นไปตามแผน

IVL ยังได้ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับแผนการปรับสินทรัพย์และการปลดล็อกมูลค่าสินทรัพย์ ประการแรก IVL บรรลุการเพิ่มขึ้นของ EBITDA รวม 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากความพยายามในการปรับสินทรัพย์ในปี 2567 และมีเป้าหมายเพิ่มเติมอีก 74-84 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 บริษัทยังคาดหวังกระแสเงินสดเพิ่มเติมจากการขายสินทรัพย์ 100-130 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 ประการที่สอง แผนการจดทะเบียนของ Indovinya และ Indovida ยังคงเป็นไปตามแผน (วางแผนจดทะเบียนภายในครึ่งปีแรก 2569) โดยมีเป้าหมายรายได้รวมประมาณ 1.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เป้าหมาย EBITDA 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2570

IVL ประกาศเป้าหมาย EBITDA สำหรับปี 2570 ที่ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้สถานการณ์พื้นฐาน ตัวเลขนี้อาจเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หาก IVL ประสบความสำเร็จในโครงการเติบโตทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นจาก 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ทำได้ในปี 2567 การปรับปรุงส่วนผสมปริมาณ (เช่น การขจัดผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรต่ำหรือขาดทุน และเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง) เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตนี้ โดยสามารถสร้างการเติบโต 0.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการเติบโตทั้งหมด 0.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างปี 2567 และ 2570

บล.ทิสโก้คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ IVL พร้อมมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 31.00 บาท ซึ่งมีความเสี่ยงสำคัญที่อาจทำให้ราคาลดลง : ความอ่อนตัวของอัตรากำไร และการหยุดชะงักของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้

บล.บัวหลวงระบุว่า การทำ asset optimization ในปีที่แล้ว จะส่งผลให้ EBITDA เพิ่มขึ้น US$110-120m ในปี 2568 และ 2569 และ US$130-140 m ในปี 2570รวมทั้งคาดว่าจะมีกระแสเงินสดรับจากการขายที่ดิน/สินทรัพย์เข้ามา US$100-130m ในปีนี้และ US$50-70m ในปีหน้า

ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป นอกจากการเติบโตของอุปสงค์ในภาพรวม, การลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง, และ asset rationalization IVL จะมุ่งเน้นการสร้างความเติบโตผ่านการลงทุนร่วมกับพันธมิตร (JV)

IVL ตั้งเป้าหมาย EBITDA จะเพิ่มขึ้นเป็น USS2.1bn (ROCE 11.9%) ในปี 2570 จาก US$1.5bn (ROCE 7.1%) ในปี 2567 โดยตั้งงบลงทุน (growth CAPEX) ไว้ที่ US$0.8bn

IVL วางแผนจะทำ IPO ธุรกิจ specialty chemical และ ธุรกิจ packaging ในครึ่งปีแรก 2569 คาดระดมเงินได้ราว USS1bn

แนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผลการดำเนินงาน น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป

บล.กสิกรไทยระบุว่าวางแผนเติบโตควบคู่กับการลดภาระหนี้

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเหมาะสมที่ 27.00 บาท เนื่องจากคาดประสิทธิภาพการใช้เงินทุนที่ดีขึ้น และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้อต่อ upside ของเงินปันผล

IVL เดินหน้ากลยุทธ์ลดภาระหนี้ โดยตั้งเป้าลดอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA จาก 5 เท่าเหลือ 3 เท่าภายในปี 2570 แผนนี้รวมถึงโอกาสการจ่ายเงินปันผลที่ 1.2-1.6 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6-7%

IVL จัดประเภทตัวเองเป็นบริษัทที่เน้นการเติบโต และตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA ด้วย CAGR 10%ในช่วงปี 2567-70 นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานแล้ว ยังมีโครงการลงทุนใหม่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ