#SGC #ทันหุ้น - SGC ปรับโมเดลหันลุย Lock Phone เต็มพิกัด ชี้หากลุล่วงหนุนพอร์ตดอกเบี้ยรับแตะ 30% ในสิ้นปีนี้ พร้อมปักเป้าปี 2568สินเชื่อล็อกโฟนทะยานเฉียด 150%จากปีก่อน อานิสงส์ดีมานด์ทะลัก-แบรนด์เข้าร่วมเพิ่ม แถมศึกษาออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ระดมทุนต่อยอดธุรกิจเพิ่ม ด้านโบรกเกอร์ ส่องกำไรปีนี้โตเด่น 317% จากปีก่อน รับสินเชื่อมือถือโตแรง แนะ “ทยอยสะสม” มองอนาคต 1.40 บาท
นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับแผนงานเพิ่มเติม หลังได้มีการยกเลิกการปล่อยสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) และสินเชื่อผ่อนทองคำไปแล้วในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้ทาง SGC จะหันมามุ่งให้ความสำคัญกับการทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ในส่วนของสินเชื่อผ่อนมือถือ ภายใต้โครงการ SG Finance+ แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยสนับสนุนการขาย หรือ (Lock Phone : ล็อกโฟน) ให้มากขึ้น หลังได้รับการตอบรับจากลูกค้าและค่ายมือถือต่างๆ เข้าใช้บริการและรวมเป็นพาร์เนอร์กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากทุกอย่างสำเร็จตามที่วางไว้คาดจะได้เห็นสัดส่วนของดอกเบี้ยรับจากกลุ่มสินเชื่อล็อกโฟนขยับเพิ่มขึ้นเป็นราว 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งหมดในสิ้นปี 2568จากเดิมในปี 2567 ที่ราว 11.2%ตลอดจนสนับสนุน
*ปีนี้สินเชื่อทะยาน
สำหรับแนวโน้มธุรกิจปี 2568 ทาง SGC วางเป้าหมายปล่อยสินเชื่อล็อกโฟนเติบโตประมาณ 146%เมื่อเทียบกับปี 2567 ที่ราว 3,246ล้านบาท ผลจากการขยายตลาดเชิงรุกเต็มปี ประกอบกับมีค่ายมือถือต่างๆ เข้ารวมพาร์ตเนอร์มากขึ้นแบรนด์มือถือชั้นนำ คือ OPPO – VIVO – XIAOMI – realme – Infinix และล่าสุด Honor แบรนด์จีนที่มี Market Share ตลาดมือถือในประเทศสูงถึง 62% และส่งผลให้ความต้องการ (ดีมานด์) สินเชื่อโมเดลดังกล่าวเติบโตมากขึ้น
อย่างไรก็ดี นอกเหนือ จากดอกเบี้ยรับจากการปล่อยสินเชื่อผ่าน Lock Phone นั้นยังมีแรงสนับสนุนรายได้อื่นๆ เข้ามาสนับสนุนเพิ่มขึ้น จากค่าคอมมิสชันจากการขายมือถือ (Marketing Support) รวมไปถึงยังได้ค่าธรรมเนียมในการใช้แพลตฟอร์มเครื่องละ 300 บาท ตลอดจนจะเน้นขายประกันจอแตกเข้าเสริมเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ทาง SGC อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพิ่มเติม เพื่อนำเงินที่ระดมทุนได้มาขยายธุรกิจในส่วนของสินเชื่อล็อกโฟน ฯลฯ เสริมความแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคตต่อไป หวังได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ในปี 2568
ขณะเดียวกันล่าสุดทาง บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ยังได้การเข้าทำสัญญาแต่งตั้งดีลเลอร์ระหว่างบริษัท และบริษัท เจ มาร์ท โมบาย จำกัด หรือ JMB ซึ่งมีข้อตกลงให้ JMB เป็นผู้เรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าที่เข้าทำสัญญาสินเชื่อเช่าซื้อในการเช่าซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่จากร้าน JMB และร้านค้าที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการโดย JMB เอง หวังเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
กำไรเด่นอนาคต 1.40 บ.
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ “ทยอยสะสม” โดยประเมินราคาเป้าหมายหุ้น SGC ไว้ระดับ 1.40 บาท หลังบริษัทมีการแจ้งงบสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิ 162.68ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ประมาณ 16%ผลมาจากแรงหนุนของการเติบโตอย่างแข็งแกรงของสิน เชื่อ Lock Phone ผสานกับอัตรา NPL ของโครงการที่อยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งช่วยชดเชยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่ยังมีการตั้งสำรองต่อเนื่อง
ส่วนภาพรวมปี 2568ทางฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการกำไรของ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ยังเติบโตแกร่ง 317% จากปี 2567 เพราะได้ปัจจัยบวกจากพอร์ตสินเชื่อ Lock Phone ที่มองว่าน่าจะสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับหุ้นของทางบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC มีการซื้อขายใน P/E ค่อนข้างต่ำ จึงมองเป็นโอกาสในการเข้า
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม