#TOP #ทันหุ้น – การซื้อขายหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP วันที่ 26 มี.ค. 68 ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในช่วง 25.00-26.00 บาท ก่อนปิดครึ่งวันเช้าที่ 25.75 บาท ลดลง 1.00 บาท (-3.74%) มูลค่าการซื้อขาย 639.28 ล้านบาท

กรณีที่ผู้รับเหมา EPC เริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 มี.ค. 2568 TOP รายงานต่อ SET ว่า บริษัท ซัมซุง อีแอนด์เอ (ประเทศไทย) จำกัด และ Saipem Singapore Pte. Ltd. (รวมเรียกว่า "ผู้เรียกร้อง") ได้เริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการกับบริษัทฯ ที่ศูนย์อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศสิงคโปร์ ("การอนุญาโตตุลาการ")

.

โดยกลุ่มผู้เรียกร้องเป็นสมาชิกของผู้รับเหมางาน EPC หลักของโครงการ Clean Fuel Project (CFP) ซึ่งประเด็นข้อพิพาทระหว่างกลุ่มผู้เรียกร้องและบริษัทฯ คือการที่ TOP ได้บังคับหลักประกันงานก่อสร้างโครงการ CFP (Performance bond) มูลค่าประมาณ 358 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยผู้เรียกร้องอ้างว่าการใช้สิทธิของ TOP ภายใต้หลักประกันนั้นเร็วเกินไปและไม่เหมาะสม และได้เรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทฯ สำหรับความสูญเสียที่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียด

.

บล.กสิกรไทยระบุว่า คิดว่ากระแสข่าวข้างต้นอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อบรรยากาศการซื้อขายหุ้น TOP ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม TOP เชื่อว่าการอนุญาโตตุลาการจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการ CFP ขณะที่บริษัทฯ พิจารณาว่าข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้เรียกร้องไม่มีมูล และได้ยื่นขอต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิของบริษัทฯ

.

บล.กสิกรไทยเชื่อว่าโอกาสที่ TOP จะแพ้คดีอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจาก

1) ไม่คาดว่าผู้รับเหมา EPC จะสามารถก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จตามกำหนดการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (SCOD) ในไตรมาส 2/2568

2) ที่ปรึกษากฎหมายของสถาบันการเงินที่ออก Performance bond ได้พิจารณาประเด็นทางกฎหมายอย่างรอบคอบก่อนอนุมัติเงินประกันการก่อสร้างแล้ว

แม้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด หาก TOP แพ้คดีอนุญาโตตุลาการเราคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัทฯ เนื่องจาก TOP ไม่เคยรับรู้รายได้จากเงินหลักประกันงานก่อสร้างในงบกำไรขาดทุน

.

บล.กสิกรไทยให้คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 30.10 บาท หาก TOP ต้องคืนเงินหลักประกันงานก่อสร้างให้กับผู้เรียกร้อง ราคาเป้าหมายจะลดลงจาก 30.10 บาท เป็น 26.60 บาท ซึ่งเป็นระดับราคาหุ้นปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราไม่คาดว่า TOP จะแพ้คดี เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"

.

หากราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากกระแสข่าวนี้ เรามองเป็นโอกาสในการสะสมหุ้น โดยเรามองว่า TOP เป็นโรงกลั่นที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในประเทศ ปัจจุบันซื้อขายด้วย PBV ปี 2568 ที่ 0.35 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตเกือบ 2.5 เท่า และต่ำกว่าคู่แข่งโรงกลั่นในประเทศที่ 0.52 เท่า

.

บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 33.0 บาท/หุ้น คงมุมมองงบลงทุนส่วนเพิ่มโครงการ CFP ที่ได้รับอนุมติจากผู้ถือหุ้นครอบคลุมกรณีการจ้างผู้รับเหมาฯหลักรายใหม่แล้ว ข้อพิพาทธนุญาโดฯที่เกิดขึ้น และที่อาจมีเพิ่มในอนาคตูมีโอกาสเป็น upside ช่วยลดต้นทุนก่อสร้าง CFP ได้ เป็นโอกาสทยอยซื้อ รับการฟื้นตัวในไตรมาส 1/68 ถึงปี 2569 และ upside การได้เงินชดเชยโครงการ CFP เพิ่มเติมในอนาคต

.

บล.บัวหลวงมองว่าหากราคาหุ้นปรับตัวลงจากข่าวนี้ เป็นโอกาสสะสมหุ้น รับช่วงไฮซีซั่นของค่าการกลั่นในไตรมาส 2/68

.

บล.เอเซียพลัสระบุว่า เบื้องต้นคาดประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบลบเชิงจิตวิทยา เพราะ TOP ต้องเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ ซึ่งยังไม่สามารถระบุระยะเวลาในกระบวนการได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด ดังนั้นช่วงสั้นอาจต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าลงทุน

ถึงแม้ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน TOP ยังยืนยันว่าการบังคับหลักประกัน และได้รับเงินมาแล้วจำนวน 358 ล้านเหรียญฯ ถูกต้องตามข้อกำหนด และเงื่อนไขของสัญญา EPC รวมถึงการดำเนินโครงการ CFP ยังคงเดินหน้าต่อไปตามแผนเพื่อให้แล้วเสร็จในปี 2571

ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์

https://www.facebook.com/thunhoonnews