#LH #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
.
LH โรงแรมแห่งใหม่ที่ลุมพินีจะเริ่มดำเนินการเดือนเม.ย.นี้
LH จะเปิดตัวโรงแรมโครงการใหม่ แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ ลุมพินี อย่างเป็นทางการในวันที่ 1เม.ย. 2568 โดยเป็นโรงแรมแห่งที่ 8 ของ LH และจะเป็นโรงแรมระดับหรูแห่งแรก ซึ่งมีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จสูง
แม้โครงการนี้จะใช้เงินลงทุนสูงถึง 4.8 พันลบ. แต่ผลกระทบต่อกำไรสุทธิของ LH ในช่วง 3 ปีแรกจะน้อยมาก (ต่ำกว่า 3%) โดยจะเริ่มเห็นการรับรู้กำไรในสัดส่วนที่มากขึ้นหลังจากมีการขายในอีก 3 ปีข้างหน้า
คงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 6.50 บาท ความคืบหน้าของยอดขายจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทั้งเชิงบวกและลบต่อประมาณการของเรา
.
Investment Topics
แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ ลุมพินี เตรียมเปิดให้บริการในเดือน เม.ย. บล.กสิกรไทยมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการดำเนินงานของโรงแรมใหม่ของ LH คือ แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ ลุมพินี หลังจากมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโครงการเมื่อวานนี้ โดยโรงแรมมีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เม.ย. ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพใจกลางกรุงเทพฯ ติดสถานี MRT ลุมพินี และอยู่ตรงข้ามกับโครงการ วัน แบงค็อก ขณะนี้โรงแรมได้มีการจองล่วงหน้าสำหรับงานแต่งงานแล้ว 16งานในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้าองค์กรที่สนใจห้องประชุมที่มีอุปกรณ์ครบครัน
นอกจากนี้ โรงแรมยังสามารถเรียกเก็บอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ได้มากกว่า 8,000 บาท ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับโรงแรมอื่น ๆ ในเครือ แม้ยังต่ำกว่าโรงแรมใกล้เคียงที่มีราคาสูงกว่า 10,000บาทต่อคืน เราคาดว่าโรงแรมจะเริ่มเปิดดำเนินการด้วยอัตราการเข้าพัก (OCR) มากกว่า 20%
.
มีจุดขายสำคัญหลายประการ เราเชื่อว่าโรงแรมสูง 50 ชั้น จำนวน 512 ห้องแห่งนี้มีความโดดเด่นในหลายด้าน ในฐานะโรงแรมหรูแห่งแรกของ LH ที่ยกระดับจากโรงแรมระดับบน โครงการนี้มีจุดขายหลากหลายที่น่าจะดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม
จุดเด่นสำคัญคือเป็นโครงการแบบ mixed-use ที่มีพื้นที่สำนักงานรวม 12,000 ตร.ม. พร้อมทั้งมีสปาและออนเซ็นขนาด 3,000 ตร.ม. และฟิตเนสพร้อมห้องเกมขนาด 1,000 ตร.ม. ซึ่งสร้างศักยภาพในการสร้างรายได้เสริมเพิ่มเติม โมเดลนี้คล้ายกับ แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และน่าจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันความต้องการของลูกค้า
.
มูลค่าที่จะถูกปลดล็อกในอีก 3 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับโรงแรมใหม่อื่น ๆ LH คาดว่า OCR ของโรงแรมแห่งนี้ในปีแรกจะเริ่มที่ 30-40% และจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70%ในปีที่สอง อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าผลการดำเนินงานของโครงการจะดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมจากปัจจัยด้านทำเลที่มีศักยภาพ แบรนด์ แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ ที่แข็งแกร่ง และผู้บริหารที่มีประสบการณ์
LH คาดว่าเมื่อโครงการเข้าสู่จุดที่มีรายได้คงที่แล้ว จะสามารถสร้างรายได้ต่อปีมากกว่า 1.4 พันล้านบาท (ระดับเดียวกับ แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา ในปี 2567) แต่จากค่าเสื่อมราคาที่สูง กำไรของโครงการจะคิดเป็นไม่ถึง 3% ของกำไรทั้งปีของ LH โดยมูลค่าเต็มของโครงการจะถูกปลดล็อกภายใน 3 ปีข้างหน้า เมื่อมีการขายให้กับ LHHOTEL
.
Valuation and Recommendation
แม้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อโรงแรมใหม่ดังกล่าวและยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ LH พร้อมคงราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 6.50 บาท แต่เนื่องจากธุรกิจโรงแรมมีส่วนสนับสนุนในกำไร (ที่ไม่รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์) เพียงเล็กน้อย ความคืบหน้าของยอดขายจากธุรกิจที่อยู่อาศัยจึงจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในระยะสั้น
จากเป้ายอดขายของ LH ปี 2568 ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท เทียบกับประมาณการของเราที่ 1.97 หมื่นล้านบาท เราจึงมองว่ามีความเสี่ยงขาลงต่อประมาณการกำไรปี 2568 ของเรา หากยอดขายไตรมาส 1/2568ที่มีกำหนดประกาศในช่วงต้นเดือนเม.ย.ออกมาต่ำกว่า 5พันล้านบาท แม้ว่าการพัฒนาครั้งนี้อาจสร้างโมเมนตัมเชิงลบต่อราคาหุ้น แต่การซื้อขายตามมูลค่าทางบัญชี (BV) ปี 2568 ที่ต่ำกว่า 4.5 บาท ถือเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม