เคาะ TIDLOR TIDLOR

#ทันหุ้น-ผู้บริหารยังไม่ได้ให้เป้าหมายทางการเงินในปีนี้อย่างเป็นทางการโดยคาดว่ารอการปรับโครงสร้างธุรกิจ และผลของมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” โดยเราคาดผู้บริหารยังคงคุมเข้มการปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะใกล้เคียงกับปีก่อน (เราคาดกรอบ +7.5%) โดยยังคงโฟกัสสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองยังทยอยปรับลดสัดส่วนลงให้ต่ำกว่า 10%ของพอร์ตสินเชื่อรวม

สถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่สูง (3Q/24 = 89%/GDP) มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทที่จะไปรองรับความต้องการในช่องว่างของตลาด เนื่องจากมีจุดแข็งที่มีเงินทุนจาก BAY ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากเงินทุนนี้ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างๆ ได้มากขึ้น

ด้านคุณภาพสินทรัพย์จะยังคงรักษาจุดเด่นตัวเลขหนี้เสียอยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับวงการอุตสาหกรรมจำนำทะเบียน แต่ยังต้องจับตากับความเสี่ยงของพอร์ตเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง โดยเราคาด NPLs มีโอกาสปรับลดต่ำกว่า 1.8% เนื่องจาก 1. สินเชื่อที่คาดว่าจะยังขยายตัว 2. คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น จากมาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ และการพัฒนาระบบจัดการติดตามทวงถามหนี้ รวมถึงได้รับผลกระทบจากมาตรการคุณสู้ เราช่วย

NIM คาดว่าจะชะลอตัวต่อเนื่องจาก 4Q/24 จากแนวโน้ม CoF ที่เร่งตัวขึ้น และคาดว่าพีคสุดใน 2Q/25F จากผลของการออกหุ้นกู้ต้นทุนสูงในปีที่ผ่านมา รวมถึงได้รับผลกระทบจากมาตรการ ”คุณสู้ เราช่วย” ส่วน C/I ปีนี้อาจเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 55.9%มาแตะระดับ 56.5% จากการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อ (ขยายสาขาราว 80-100สาขา) และนายหน้าประกันภัย รวมถึงพัฒนาระบบ IT

เราประเมินกำไรสุทธิปี 25-26F เท่ากับ 4.6 พันล้านบาท +10%YoY และ 5.5 พันล้านบาท +18%YoY ตามลำดับ โดยภาพรวมยังคงคุมเข้มในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะโฟกัสในพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ขณะที่ NIM อาจชะลอตัวลงจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบจากมาตรการคุณสู้ เราช่วย แต่แลกมากลับคุณภาพลูกหนี้ที่ดีขึ้น และผลขาดทุนรถยึดที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยคาดหวัง Credit cost และ NPLs ratio ที่ชะลอตัว ส่วนธุรกิจประกันภัยคาดว่าจะเติบโตทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ 1. Shield Insurance ผ่านพนักงานสาขา 2. Areegator เป็น online platform ผ่านตัวแทนนายหน้า และ 3.heygoody เป็น online platform ที่ไม่มีการโทรขายประกัน

แนวโน้ม 1Q/25F คาดว่าจะดีขึ้น QoQ และYoYเนื่องจาก 1. สินเชื่อยังขยายตัว 2. ค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่ลดลงจากคุณภาพลูกหนี้ที่ดีขึ้น และ 3. OPEX ที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 18.60 บาท อิง P/BV 1.68 เท่า ทั้งนี้ TIDLOR อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างเป็น Holding Company โดยเปิดรับคำเสนอซื้อ/แลกหุ้น 10 มี.ค. - 16 เม.ย. 2568 ในอัตรา 1:1 ซึ่งต้องดำเนินการด้วยตนเอง โดยเราแนะนำให้นักลงทุนดำเนินการแลกหุ้น เพื่อคาดหวังการดำเนินธุรกิจที่คล่องตัวและการจ่ายปันผลที่สูงขึ้น

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นแท่งเทียนสัญญาณบวกเรียงตัวขึ้นตามSMA5วันที่ทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มกลับตัวขึ้นV-Shape โดยแนวต้านจุดทดสอบจุดสูงแท่งเทียนคู่ 15.80 และGapแนวต้าน 16.40-16.60 ปรับตัวเน้นยืนกรอบแนวรับ 15-14.80

คำแนะนำ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 15.80/16.60

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 15-14.80 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา