#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ สแกน บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 มาตรการภาษีของสหรัฐรอบนี้อาจจะทำให้ราคาขายอุปกรณ์ IT สูงขึ้น โดยเฉพาะ PC/ notebook/ และ smartphone ทั้งนี้ เนื่องจากอุปสงค์มีความอ่อนไหวอย่างมากกับราคา ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่าอุปสงค์จากผู้ใช้ขั้นสุดท้าย (end-users) จะแผ่วลง ปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 18.00 บาท อิงจาก PER ที่ 15.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต -1.5 S.D.)
ประมาณการ Q1/68 กำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิของ COM7 ใน Q1/68 จะอยู่ที่ 791 ล้านบาท (-4% YoY, -23% QoQ) โดยกำไรที่ลดลง YoY เป็นเพราะการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจ่ายซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย (+4% YoY) และการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น (+30bps YoY) โดยยอดขายโต YOY เพียงเล็กน้อยมาที่ 1.99 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากเพดานการใช้จ่ายตามมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ (Easy E-receipt) ลดลงเหลือ 30,000 บาท ใน Q1/68 จาก 50,000 บาทใน Q1/67 ในขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะผลจากปัจจัยฤดูกาล โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน Q1/68 จะอยู่ที่ 13.0% (+30bps YoY, -40bps QoQ) เพราะคาดว่ามีการจัดแคมเปญการตลาดน้อยกว่าใน Q1/67 จากการออกสินค้ารุ่นใหม่
ผลกระทบการใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทนสหรัฐ จากบทวิเคราะห์ของ KGI Taiwan เรื่อง “IT Hardware: Higher US tariffs will hurt IT demand; server assemblers in Mexico unaffected thanks to USMCA” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 ทีมวิจัยของ KGI Taiwan คาดว่ามาตรการภาษีของสหรัฐรอบนี้จะส่งผลกระทบกับผู้ผลิต IT hardware เกือบทุกแห่ง โดยคาดว่าผู้ผลิต PC และ smartphone จะถูกกระทบจากการขึ้นภาษีแบบเหวี่ยงแหของสหรัฐ เพราะอุปสงค์ของผู้บริโภคอ่อนไหวมากกว่ากับราคาสินค้าที่สูงขึ้น
ในขณะที่สหรัฐเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ PC (27.7%) และ ของ notebook (30.7%) Apple คาดจะเสียหายมากที่สุดเพราะสินค้าส่วนใหญ่ของ Apple พึ่งพิงตลาดสหรัฐ (PC: 44% , Notebook 44% และ smartphone 35% ในขณะที่ notebooks, smartphone, และ wearable products ส่วนใหญ่ของ Apple ผลิตในจีน (smartphone และ notebooks), อินเดีย (smartphone) และ เวียดนาม (wearable และ notebooks) ซึ่งเข้าข่ายถูกเก็บภาษีตามมาตรการภาษี ทั้งนี้ เนื่องจากอุปสงค์ของผู้บริโภคอ่อนไหวกับราคาสินค้า ผู้ผลิตจึงต้องเลือกจะหว่างยอมลดอัตรากำไรลง หรือ ยอมเสียอุปสงค์ไป ซึ่งไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็จะทำให้กำไรลดลงทั้งคู่
ปรับลดประมาณการกำไร และ de-rate PER เนื่องจากรายได้ของ COM7 ที่เกี่ยวข้องกับ smartphone คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของรายได้รวม และ รายได้ที่เกี่ยวกับ laptop คิดเป็นประมาณ 15% ของรายได้รวม ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่าอุปสงค์จากสองกลุ่มนี้จะลดลง ดังนั้น จึงปรับลดประมาณการยอดขายปี 2568-2569 ลง 4-5% เพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงจากอุปสงค์ที่อาจจะลดลง/ถูกเลื่อนออกไป ซึ่งทำให้ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 10% และ ปี 2569 ลง 14% นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยยัง de-rate PER จาก 18.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต -1.0 S.D.) เหลือ 15.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต -1.5 S.D.) เพื่อสะท้อนถึงปัจจัยความไม่แน่นอน
ฝ่ายวิจัยปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ลงจากเดิม 25.00 บาท เหลือ 18.00 บาท อิงจาก PER ที่ 15.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต -1.5 S.D.) เนื่องจาก i) ขาดปัจจัยกระตุ้นด้านบวกในระยะสั้น ii) ผลกระทบในวงกว้างจากการขึ้นภาษีของสหรัฐ iii) ความกังวลเกี่ยวกับแท็กซี่ EV ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ iv) ราคาปิดล่าสุดเหลือ upside จำกัด ดังนั้น จึงปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ”
Risks อุปสงค์ smartphones ต่ำเกินคาด, รายได้จากการขายอุปกรณ์เสริมต่ำกว่าที่คาด, และมีการจัดรายการส่งเสริมการขายมากกว่าที่คาดไว้
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์
https://www.facebook.com/thunhoonnews
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม