สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ MASTER หรือ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจสถานพยาบาลด้านความงามที่ให้บริการศัลยกรรมครบวงจร ผลการดำเนินงาน ปี 67 มีกำไร 552 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.73 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน ปี 66 มีกำไร 416 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.39 บาท
MASTER รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 67 มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 522.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%จากปี 66 ที่มีกำไรอยู่ที่ 416.29ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล ทำได้ 2,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,916 ล้านบาท
โดยรายได้จากการศัลยกรรมเพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มหัตถการ ศัลยกรรมยกคิ้ว ศัลยกรรมหน้า และสุขภาพชาย รวมถึงรายได้จากการปลูกผมและดูแลเส้นผม นอกจากนี้ บริษัทมีการทำการตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศ อินโดนีเซีย เมียนมา จีน เข้ามาใช้บริการ ส่งผลให้รายได้จากการศัลยกรรมความงามปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 มีกำไรสุทธิ 219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2566บริษัทมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 635 ล้านบาท เติบโต 17% จากปี 66 มีรายได้อยู่ที่ 543 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากศัลยกรรมทำได้ 541ล้านบาท เติบโต 17% จากปี 2566สาเหตุการเติบโตมาจากการรายได้ในหัตถการศัลยกรรมยกคิ้ว สุขภาพชาย และศัลยกรรมหน้า
นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ในปี 2568 บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 2 หลัก (Double Digits) เป็นการเติบโตจากตลาดภายในประเทศเพียงหลักเดียว ขณะที่ตลาดต่างประเทศจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก คาดเติบโตระดับ สองหลัก รักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 20% และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้อยู่ในระดับ 58-59%
นอกจากนี้บริษัทยังวางเป้าหมาย Partner Profit Contribution (ส่วนแบ่งผลกำไรของพันธมิตร) ที่ 80-100 ล้านบาท โดยจะเปิดให้บริการ 3 โรงพยาบาลใหม่ ได้แก่ 1.โรงพยาบาลศัลยกรรมความงามแห่งแรกในภาคอีสาน โดย “กรวิน คลินิก” ร่วมกับ MASTER 2.โรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม ครบวงจร โดย “WIND” ร่วมกับ MASTER และ 3.TYP Hospital โดย “TYP” ร่วมกับ MASTER
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงระยะสั้นที่ 19.00 หลังจากพยายามสร้างฐานที่บริเวณ 25.00-30.00 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 22.00 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 25.00 ตามกรอบแนวโน้มขาลง ในขณะที่การปรับตัวลดลงต่ำกว่า 18.50 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 15.00 ตามโครงสร้างแนวโน้มขาลง
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
FACEBOOK : ทันหุ้นออนไลน์ คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
YOUTUBE : Thunhoon คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok : Thunhoon คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM : Thunhoon คลิก https://t.me/thunhoon_news
X : Thunhoon คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram : Thunhoon คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม