ผลการดำเนินงาน ปี 67 มีกำไร 102 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.08 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน ปี 66 ขาดทุน 138 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 0.26 บาท
BAFS ในปี 2567 ผลการดำเนินงานของ BAFS และกลุ่มบริษัทยังคงมีอัตราเติบโตทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและโดดเด่น สามารถรักษาระดับผลประกอบการให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้พลิกกลับมามีกำไรสุทธิเป็นปีแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 อยู่ที่ 102.9ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175% เทียบกับปีก่อนหน้า
โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานที่สูงถึง 5,047 ล้านลิตร สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และปริมาณการขนส่งน้ำมันผ่านท่อภาคเหนือที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดสู่ระดับ 1,226 ล้านลิตร ส่งผลให้รายได้รวมอยู่ที่ 3,507 ล้านบาท ขยายตัว 14 % เทียบกับปีก่อนหน้า ตามการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว ขณะที่ EBITDA ยังคงเติบโต 21% จากปีก่อน อยู่ที่ 1,594.3 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 BAFS Group มีรายได้รวม 955.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA จำนวน 343.9 ล้านบาท จากกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณเติมน้ำมันอากาศยาน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1%และต้นทุนทางการเงินสุทธิลดลง 9% จากการทยอยจ่ายชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงินและจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ BAFS Group ได้มีการรับรู้ผลขาดทุนจากการปรับลดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในโรงไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่น และผลขาดทุนจากค่าความนิยมของโรงไฟฟ้าในประเทศไทย รวมทั้งมีการตัดจำหน่ายผลประโยชน์ภาษีเงินได้ (DTA) ที่คาดว่าจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ในอนาคต ซึ่งรายการดังกล่าวถือเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชีเท่านั้น ไม่ได้กระทบต่อกระแสเงินสดแต่อย่างใด ส่งผลให้ในไตรมาส 4/2567 มีขาดทุนสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 49.8 ล้านบาท
ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ในปี 68 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 8-9% มาที่ 3,810 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว การกลับมาของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และจำนวนอากาศยานที่เพิ่มขึ้น
โดยตั้งเป้าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่ 5,400 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 7% YoY ขณะที่ 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.68) ปริมาณเติมน้ำมันอยู่ที่ 946 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 18% ของเป้าทั้งปี และตั้งเป้าปริมาณการขนส่งน้ำมันผ่านท่อภาคเหนือปีนี้ 1,290 ล้านลิตร เติบโต 5% โดย 2 เดือนแรก ขนส่งน้ำมัน 238 ล้านลิตร หรือ 18% ของเป้าทั้งปี ส่วนธุรกิจไฟฟ้า คาดโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 4% มาที่ 51.3 เมกะวัตต์
ปีนี้เตรียมงบลงทุน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 800 ล้านบาท จะเน้นโครงการเชื่อมท่อภาคตะวันออก (Link line) คาดเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ปี 69และที่เหลือจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งโครงการโซลาร์รูฟท็อป และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน รวมถึงเปลี่ยนรถให้บริการที่ทันสมัยมากขึ้น เสริมศักยภาพเติมน้ำมันให้ดีขึ้น
ส่วนการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ปีนี้ปริมาณการใช้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ ทั้งสายการบินและผู้ใช้น้ำมัน
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงระยะยาวที่ 7.00 แต่เราคาดว่า ราคาหุ้นน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคกลับขึ้นไป โดยมีแนวต้านที่ 7.70 และ 8.00 เป็นแนวต้านสำคัญ ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 9.50-10.00
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
FACEBOOK : ทันหุ้นออนไลน์ คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
YOUTUBE : Thunhoon คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok : Thunhoon คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM : Thunhoon คลิก https://t.me/thunhoon_news
X : Thunhoon คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram : Thunhoon คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม