#AGE #ทันหุ้น – AGE ชี้สงครามการค้าไม่กระทบการขายถ่านหิน ย้ำเป้ายอดขายปีนี้ 1.3 หมื่นล้านบาท จากรายได้รวมที่ตั้งไว้ 1.7 หมื่นล้านบาท ส่วนราคาถ่านหินยังทรง มั่นใจผลงานพลิกบวก ขณะที่ธุรกิจขายรถอีวีโตแกร่งแตะ 300 ล้านบาท ทั้งปีหวัง 2 พันล้านบาท ส่วนแผนเป็นโฮลดิ้งคาดสมบูรณ์ต้นปี 2569
นายปองธรรม แดนวังเดิม หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายถ่านหินสะอาด และมีการลงทุนที่เกี่ยวเนื่อง เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่องในทุกไตรมาสนับแต่หลังกลางปี 2567ที่งบการเงินมีกำไรสุทธิชัดเจนภายหลังจากเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในกลุ่มธุรกิจเน้นการรักษากระแสเงินสด และขยายธุรกิจใหม่รับมือกับทิศทางราคาถ่านหิน
อย่างไรก็ตามแม้งบรวมทั้งปี 2567 จะยังขาดทุนเท่ากับ 221.18ล้านบาท แต่สำหรับปี 2568 นี้เชื่อมั่นว่า ผลประกอบการจะพลิกกำไรต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกได้ อีกทั้งสงครามการค้าจากนโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ก็ยังไม่ได้ผลกระทบอย่างมีนัยต่อธุรกิจหลักคือถ่านหิน
*ถ่านหินแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ยอมรับว่า ระยะที่ผ่านมาราคาถ่านหินในตลาดโลกถือว่าต่ำอยู่แล้ว เมื่อประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศนโยบายขึ้นภาษีรุนแรงเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ราคาถ่านหินจึงแทบไม่เคลื่อนไหวเปลี่ยนจากเดิมมาก และในอีกมุมหนึ่งตอนนี้ถ่านหินเป็นต้นทุนเชื้อเพลิงที่ถูกที่สุดหากเกิดปัจจัยกดดันราคาให้ปรับลดลงไปอีกก็น่าจะผลักดันให้เกิดแรงจูงใจใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นในขณะที่บริษัทสามารถคงราคาขายไว้ได้
นอกจากนี้บริษัทมีสัดส่วนขายถ่านหินภายในประเทศไทยกว่า 88% และไม่ได้มีการส่งออกถ่านหินไปยังสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว ทว่าที่เกี่ยวข้องมีเพียงการนำเข้าสินค้าบางชนิดจากสหรัฐอเมริกาในปริมาณไม่มาก
*เป้ารายได้ 1.7 หมื่นล.
ดังนั้นบริษัทคงเป้าหมายยอดขายถ่านหินปี 2568 ขยายตัวจากปีก่อนทำได้ 11,348.80 ล้านบาท กลยุทธ์ระยะยาวบริษัทจะไม่เร่งการเติบโตของยอดขายธุรกิจนี้เนื่องจากมีส่วนแบ่งการตลาดที่สูงมากแล้ว โดยจะมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนเพื่อให้อัตรากำไรดีขึ้น
พร้อมกันนี้ AGE ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้รวมในปีนี้ที่ 17,000 ล้านบาท โดยมาจากสัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหิน ที่ระดับ 13,000 ล้านบาท ธุรกิจโลจิสติกส์ตั้งเป้ารายได้ 900ล้านบาท ส่วนธุรกิจพลังงานยั่งยืน (ABM) หลังจากการเข้าซื้อหุ้นบริษัท กรีน อาร์ดีเอฟ จำกัด (GRDF) และ QTC คาดว่ารายได้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท และธุรกิจเอจีอี เวนเจอร์ส คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้น
*ธุรกิจยานยนต์ต่อยอด
ด้านธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นฐานรายได้ใหม่ที่เติบโตรวดเร็ว เพิ่งเริ่มเมื่อ ตุลาคม 2567 ในเดือนแรกๆ มีรายได้เฉลี่ย 100 ล้านบาทต่อเดือน และมีกำไรแล้ว เดือนล่าสุดยอดขายต่อเดือนใกล้เคียง 300ล้านบาทแล้ว โดยช่วงมอเตอร์โชว์ที่เพิ่งผ่านมายอดขายก็เร่งตัวแรงชัดเจน ซึ่งทั้งปี 2568 คาดหวังยอดขายที่ 2,000 ล้านบาท และยังคาดหวังธุรกิจนี้สร้างกำไรราว 200-300 ล้านบาท ในปีนี้
ปัจจุบันบริษัทมีโชว์รูมหลักสำหรับแสดงยานยนต์ 3 แห่ง ทั้งปีนี้อาจจะเพิ่มขึ้นรวมเป็น 5-8 แห่ง จำนวนที่ชัดเจนขึ้นอยู่กับโอกาสและทำเล การลงทุนโดยรวมจำกัดงบไว้ 70 ล้านบาท
*เดินหน้าปรับโครงสร้าง
ส่วนความคืบหน้าการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเป็นโฮลดิ้งคอมพานี อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นช่วงกลางปีนี้ หากไม่มีข้อขัดข้องใด กระบวนการต่างๆ น่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 1/2569 โดยโครงสร้างใหม่จะทำให้ AGE มีภาพธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น นำไปสู่การสมดุลรายได้ทั้งจากธุรกิจถ่านหินกับธุรกิจอื่นๆ ในระดับใกล้เคียงกัน ผ่านการขับเคลื่อนใน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจพลังงานยั่งยืน และธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) นำพาไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของกำไรต่อเนื่อง
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม