25 เมษายน 2025 เวลา 06:50 น.
#ทันหุ้น-KBANK รายงานกำไรสุทธิ 1Q/25 เท่ากับ 1.38 หมื่นล้านบาท (+28%QoQ, +1%YoY) สูงกว่าที่ตลาดคาด 9% จากการรับรู้กำไรที่ Mark-to-market และค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่ลดลง โดยด้าน NII -1.6%QoQ, -7.2%YoY จาก NIM ที่ลดลงเล็กน้อยมาที่ 3.41% (-7 bps QoQ) ขณะที่สินเชื่อ -2%YTD จากสินเชื่อบรรษัท และรายย่อย (บัตรเครดิต) เป็นหลัก ขณะที่ได้ลดการตั้งสำรองลงกว่า 19.8%QoQ คิดเป็น Credit Cost ที่ 160 bps อยู่ในกรอบ 140-160 bps ส่วนคุณภาพสินทรัพย์มี NPLs ratio ลดลงเล็กน้อยเหลือ 3.19% รวมถึง NPL Inflow ที่ชะลอตัวลง ขณะที่ Coverage Ratio เพิ่มขึ้นเป็น 159.5% แต่ทั้งนี้ลูกหนี้ stage2 เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 8.9% เป็นไปตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อ SME และที่อยู่อาศัย แต่ยังอยู่ในระดับที่จัดการได้
ด้านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ธนาคารประเมินว่ามีเพียง 5% ของพอร์ตสินเชื่อที่เข้าเงื่อนไข ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่การลงทะเบียนจะสิ้นสุดภายในเม.ย. นี้ คาดว่าจะมีเพียง 2% และกระทบต่อ NIM ราว 3 bps สำหรับเป้าหมายทางการเงินค่อนข้างท้าทาย แต่ผู้บริหารยังคงเป้าเดิมโดยการเติบโตของสินเชื่อ (Flat), NIM (3.3-3.5%) และรายได้ค่าธรรมเนียม (5-10%) จะอยู่ในที่กรอบล่าง ส่วน Credit cost จะอยู่ที่กรอบบน ขณะที่มีความเป็นไปได้ว่ารายได้จาก mark-to-market อาจเพิ่มขึ้น หากดอกเบี้ยลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยให้ราคาสินทรัพย์ในพอร์ตเพิ่มขึ้น
สำหรับการบรรลุเป้า ROE ที่ระดับ 10% (1Q/25 = 9.6%) จะมาจาก 1. Capital Management ผ่านการจ่ายปันผล (ปี 24A จ่ายปันผล 12 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Payout Ratio ที่ 58.5%) หรือการซื้อหุ้นคืน 2. ผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะขยายตัวจาก Non-NII ที่ขยายตัวทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมและกำไรจากเงินลงทุน มาชดเชย NII ที่หดตัวจากแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของกนง. ซึ่งกระทบต่อ NIM และการตั้งสำรองที่ลดลง จากผลของโครงการคุณสู้ เราช่วย และการ Clean-up Balance sheet ในช่วงที่ผ่านมา
ในเชิง Sentiment เริ่มเห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้นหลังรายงานผลประกอบการ แม้ว่า KBANK จะปรับลดเป้า GDP ปีนี้ลงเหลือ +1.4% (เดิม +12.4%) จากผลกระทบของการขึ้นภาษีของทรัมป์ และแผ่นดินไหว แต่ทั้งนี้ เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากผลกระทบ Trade Tariffs ต่อระบบเศรษฐกิจที่อาจลดลงหลัง 1. ท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้นของทรัมป์ 2. รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงิน 5 แสนล้านบาท รวมถึงเป็น 1 ในหุ้นเป้าหมายของ Thai ESGX และกองทุนวายุภักษ์ เนื่องจากให้ Div.yield ต่อปีสูงกว่า 7.5% ซึ่งจะจ่ายปันผลพิเศษอีก 2.5 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 15 พ.ค. และมี ESG Ratings ระดับ AAA
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นปรับตัวลงสร้างแนวรับ Double Bottom 147 และกลับตัวขึ้นด้วยแท่งเทียนสีขาวยาวติดต่อกัน 3 แท่งเทียน ที่ผ่านยืน SMA ขึ้นยืนเหนืออย่างมีนัยสำคัญ สัญญาณซื้อแท่งเทียน แนวรับ 152.50/150 แนวต้านหลัก Double Topและ Gap แนวต้าน 155.50/157 เป็นจุดทดสอบ
คำแนะนำ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 155.50/157/160
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 152.50/150 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม