> เคล็ดลับลงทุน >

09 พฤษภาคม 2025 เวลา 15:40 น.

สรุปให้ชัด: Thai ESGX คืออะไร ใช้ลดหย่อนได้เท่าไหร่ เหมาะกับใคร?

#how to ลงทุน by MFC #ทันหุ้น-ในปี 2568 นี้ นักลงทุนไทยกำลังเผชิญกับจังหวะเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ เมื่อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่เคยเป็นเครื่องมือหลักในการลดหย่อนภาษีทยอยครบกำหนดการถือครอง ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย มีความเสี่ยงจากแรงเทขายจำนวนมหาศาล ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของตลาดในภาพรวม


เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งขับเคลื่อนการลงทุนในแนวทางที่ยั่งยืน ภาครัฐจึงร่วมมือกันเปิดตัวกองทุนรุ่นใหม่ในชื่อ Thai ESG Extra (Thai ESGX) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยรองรับเงินลงทุนจาก LTF เดิม แต่ยังมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมให้แก่นักลงทุนที่ร่วมสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)


Thai ESGX ถือเป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง ที่มีเป้าหมายสองด้าน คือ รักษาสภาพคล่องตลาดหุ้นไทย ท่ามกลางการไถ่ถอน LTF ที่ครบกำหนด และส่งเสริมการลงทุน ในแนวทางยั่งยืน สอดคล้องกับกระแสการลงทุนที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ แม้จะยึดแนวทางเดียวกับกองทุน Thai ESG เดิมที่อ้างอิงดัชนี SET ESG แต่ Thai ESGX เพิ่ม “เงื่อนไขสิทธิประโยชน์ทางภาษี” เฉพาะปี 2568 เข้ามาเพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนเปลี่ยนผ่านจาก LTF ได้อย่างต่อเนื่อง


Thai ESGX เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 600,000 บาท ภายในปี 2568  โดยแบ่งเป็น:


1. สำหรับการลงทุนใหม่ใน Thai ESGX ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท และไม่เกิน 30% ของเงินได้ พึงประเมิน โดยจะต้องลงทุนระหว่าง 2 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 และถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี


2. สำหรับกรณีโอนหน่วยลงทุน LTF เดิมที่ครบเงื่อนไข มายังกองทุน Thai ESGX ลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท ในปีแรก ส่วนปีที่ 2 – 5 ลดหย่อนปีละเท่า ๆ กัน โดยไม่เกินปีละ 50,000 บาท รวมอีกเป็นทั้งหมด 500,000 บาท โดยนักลงทุนต้องโอนครบทุกบลจ. และต้องถือครอง Thai ESGX ต่อไปไม่น้อยกว่า 5 ปี (ส่วนที่เกิน 500,000 บาท ต้องถือไว้ต่อ 5 ปี แต่ใช้สิทธิภาษีไม่ได้)


3. ภายหลังจากปี 2568 การลงทุนใหม่ในกองทุน Thai ESGX จะใช้วงเงินลดหย่อนร่วมกับ Thai ESG ปกติ โดยยังอยู่ภายใต้เพดาน 300,000 บาทต่อปี และถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปีเช่นเดิม


Thai ESGX เหมาะสำหรับนักลงทุนที่:

  1.  ยังถือครอง LTF เดิมไว้ และต้องการ “ต่ออายุสิทธิภาษี”
  2.  ขาย LTF ไปแล้ว หรือไม่เคยถือ LTF มาก่อน และต้องการโอกาสใหม่ในการลดหย่อนภาษีปี 2568
  3.  ผู้มีอายุน้อยกว่า 50 ปี เนื่องจากการลงทุนเพื่อสิทธิภาษีทางเลือกอื่น เช่น RMF ต้องถือยาวจนถึงอายุ 55 ปี แต่ Thai ESGX ถือเพียง 5 ปี จึงเหมาะสำหรับคนที่มีระยะเวลาลงทุนยาว และต้องการความยืดหยุ่นมากกว่า
  4.  สามารถรับความเสี่ยงจากหุ้นได้ เนื่อจาก Thai ESGX เน้นลงทุนหุ้นไทย หากรับความเสี่ยงได้น้อย  อาจพิจารณาลงทุนในกองทุน ESG ที่มีสัดส่วนตราสารหนี้มากขึ้น หรือเลือกลงทุนทางเลือกอื่น


คอลัมน์: how to ลงทุน by MFC

โดย ชุติมน แก้วคีรี

บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X