#TRUE #ทันหุ้น - บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ที่ 1.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรสุทธิครั้งแรกตั้งแต่ควบรวมกิจการเมื่อเดือนมีนาคม 2566
บล.เมย์แบงก์ ระบุว่าผลประกอบการไตรมาส 1/68 ดีกว่าคาด และคาดว่าการเติบโตจะแข็งแกร่งต่อเนื่อง
บล.เมย์แบงก์คงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 14.10 บาท
บล.เมย์แบงก์ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" TRUE เนื่องจากแนวโน้มกำไรหลักที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2/68 (+106% YoY, +3% QoQ) และทั้งปี 68 (+97% YoY) โดยในไตรมาส 1/68 TRUE รายงานกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ควบรวมกิจการ และมีกำไรหลัก 4.3 พันล้านบาท สูงกว่าที่คาดไว้ 25-30% หลังจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/68 บล.เมย์แบงก์จึงปรับประมาณการกำไรหลักปี 68-70 เพิ่มขึ้น 8-17% จากการปรับลดค่าใช้จ่าย SG&A D&A และภาษี นอกจากนี้ บล.เมย์แบงก์ยังปรับราคาเป้าหมายตามวิธี DCF เพิ่มขึ้นเป็น 14.10 บาท จาก 13.20 บาท เนื่องจากปรับอาจกระตุ้นให้ราคาหุ้นขึ้น ได้แก่ การปรับประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์ และการแข่งขันในการประมูลคลื่น 2300MH2 ที่อาจไม่รุนแรงนักในวันที่ 29 มิถุนายน
.
บล.กสิกรไทยระบุว่า กำไรปกติไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 3.6 พันลบ. เพิ่มขึ้น 365.8% YoY มากกว่าที่บล.กสิกรไทยคาดการณ์ไว้ 9.1% คิดเป็น 22.4% ของประมาณการทั้งปีของบล.กสิกรไทย
แนวทางการดำเนินงานของผู้บริหารปี 68 ค่อนข้างเป็นไปในเชิงบวก โดยคาดว่ารายได้ปกติเดือน เม.ย.ถึง ธ.ค.68 จะเติบโต 2.6%-4% และ EBITDA จะเติบโต 8.3%-10.9% ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาคจากภาษีศุลกากรตอบโต้ของทรัมป์
แม้ว่ากำไรปกติจะมีโมเมนตัมในเชิงบวก แต่บล.กสิกรไทยยังคงคำแนะนำ "ถือ" เนื่องจากบล.กสิกรไทยเชื่อว่าตลาดมีความหวังมากเกินไปเกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
การซื้อขายหุ้น TRUE วันที่ 13 พ.ค.68 ราคาเคลื่อนไหวในช่วง 12.50-12.90 บาท ณ เวลา 10.17 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 12.60 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือลดลง 0.79% มูลค่าการซื้อขาย 545.03 ล้านบาท
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม