#MINT #ทันหุ้น - บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิ 416.87 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.0018 บาท ลดลง 64% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1,146.08 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.1285 บาท
.
การซื้อขายหุ้น MINT วันที่ 13 พ.ค. ราคาเคลื่อนไหวในช่วง 24.50-25.75 บาท ก่อนจะปิดครึ่งวันเช้าที่ 25.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.35 บาท หรือเพิ่มขึ้น 5.53% มูลค่าการซื้อขาย 463.47 ล้านบาท
บริษัทชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 ระบุว่า บริษัทได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในไตรมาส 1 ของปี 2568 ด้วยการรายงานกำไรจากการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การควบรวมกิจการกับไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์ อเมริกา เมื่อปี 2561 ความสำเร็จในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัท โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงภาวะขาดทุนตามฤดูกาลที่มักเกิดขึ้นกับธุรกิจโรงแรมในยุโรปในช่วงเวลาดังกล่าว
.
ในไตรมาส 1 ปี 2568 รายได้จากการดำเนินงานลดลงเล็กน้อยร้อยละ 2เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 36,738ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินยูโร อย่างไรก็ตาม เมื่อปรับผลกระทบจากการแปลงค่าเงินแล้ว รายได้จากการดำเนินงานจะเติบโตร้อยละ 3 ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก การเติบโตของรายได้จากกลุ่มธุรกิจที่ไมเนอร์ โฮเทลส์วางกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด
.
ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนตามที่กล่าวข้างต้น ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาทรงตัวอยู่ที่ 8,382 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย ยุโรป และมัลดีฟส์ รวมถึงผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของกลุ่มร้านอาหารในประเทศไทย ซึ่งช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจโดยรวม
.
บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเป็นบวกที่ 50 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2568ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทสามารถสร้างผลกำไรได้ในช่วงไตรมาสแรก แม้อยู่ในช่วงนอกฤดูกาลของธุรกิจหลักในยุโรปก็ตาม ผลประกอบการที่โดดเด่นนี้สะท้อนถึงการพลิกฟื้นอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 352ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2567โดยการปรับตัวดีขึ้นของผลการดำเนินงานพื้นฐานในทั้งกลุ่มธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร รวมถึงการลดลงของต้นทุนทางการเงินจากระดับหนี้ที่ลดลงและต้นทุนเงินทุนที่ต่ำลง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการฟื้นตัวของผลประกอบการในครั้งนี้
หากนับรวมรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวตามรายละเอียดในภาคผนวก บริษัทมีรายได้ตามที่รายงานในไตรมาส 1 ปี 2568 ลดลงร้อยละ 1 มาอยู่ที่ 37,596 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากผลกระทบของการแปลงค่าเงินอันเนื่องมาจากการแข็งค่าของเงินบาท ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม และกำไรสุทธิที่รายงานลดลงร้อยละ 12 และร้อยละ 64 ตามลำดับ โดยสาเหตุหลักมาจากการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมากจากการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงและอนุพันธ์ เมื่อเทียบกับการบันทึกขาดทุนเพียงเล็กน้อยในไตรมาส 1 ปี 2568
ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลัก โดยมีกำไรคิดเป็นร้อยละ 78 ของกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1 ปี 2568
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม