> Trendtalk > DELTA

15 พฤษภาคม 2025 เวลา 06:30 น.

เจาะ DELTA

#DELTA #ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบแคบจากแรงขายทำกำไรต่อเนื่องที่แนวต้าน 1,230 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,230-1,240 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 1,200 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,160


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ DELTA หรือ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการระบบกำลังไฟฟ้า (Power management solutions) รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท ได้แก่ พัดลมอิเล็กทรอนิกส์ (DC Fan) อีเอ็มไอ ฟิลเตอร์ (EMI) และโซลินอยด์ มีฐานการผลิตอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ เอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้


DELTA รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 5,488 ล้านบาท เติบโต 27.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 12.8% และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.44 บาท เทียบกับ 0.35 บาทต่อหุ้น ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน


กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้มีจำนวน 5,700 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไร 13.3% เพิ่มขึ้นจาก 9.8% ของงวดเดียวกันในปีก่อนเนื่องจากการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าที่แตกต่างกันควบคู่กับประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย นอกจากนี้บริษัท ได้มีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 437 ล้านบาท ร่วมกับรายได้อื่น ๆ


กำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้มีจำนวน 10,927ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.1% ขับเคลื่อนโดยการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้นภายใต้กลุ่มธุรกิจพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไร แตกต่างกัน อีกทั้งในปีที่แล้ว บริษัทได้มีการบันทึกผลกระทบของการปรับลดมูลค่าสินค้าคงคลัง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ห่วงโซ่อุปทานในตลาดโลกที่ผ่อนคลาย


อีกทั้งมีการบันทึกประมาณการหนี้สินภาษีส่วนเพิ่ม 785 ล้านบาท ตามกฎการคำนวณภาษีเงินได้เสาหลักที่สอง (Pillar Two model rule) ที่ริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งประเทศไทยได้มีการออกกฎหมายดังกล่าวแล้ว และมีผลบังคับ ใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568


สำหรับยอดขายสินค้าและบริการในไตรมาสนี้อยู่ที่ 42,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5% ขับเคลื่อนโดยกลุ่มผู้ลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานในโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์เติบโตอย่างแข็งแกร่งสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่เร่งตัวขึ้นมาก ควบคู่กับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการประมวลผลสมรรถนะสูงภายใต้การใช้งานแอปพลิเคชันอัจฉริยะและบริการทางดิจิทัลหลากหลายรูปแบบในวงกว้าง


ขณะที่ รายได้กลุ่มโซลูชั่นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ายังคงอ่อนตัวจากสถานการณ์ดีมานด์ที่ผันผวน ขณะเดียวกันกลุ่มพัดลมและระบบจัดการความร้อนกลุ่มผลิตภัณฑ์พลังงานโทรคมนาคมยังมีรายได้ทรงตัวจากช่วงก่อนหน้า


ทั้งนี้บริษัท คงมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวังต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดของปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อภาคธุรกิจเทคโนโลยีต่อไป


ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (ร่วมการวิจัยและพัฒนา) มีจำนวน 5,227 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 22.9% จากปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นตามทิศทางเชิงกลยุทธ์เพื่อขยายขีดความสามารถด้านบุคลากรและเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้บริษัท สามารถควบคุ้มค่าใช้จ่ายในส่วนการขายและการบริหารได้ดี ส่งผลให้มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายประเภทดังกล่าวต่อรายได้รวมลดลงจากปีที่แล้ว


นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA เปิดเผยในงาน "Opportonity Day" ว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/68 คาดว่ามีแนวโน้มเติบโตสดใส เนื่องจากมองว่าความต้องการสินค้า AI & Data center กำลังเข้าสู่โหมดการเร่งเครื่องเดินหน้าเต็มที่ หลังเห็นสัญญาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาและต่อเนื่องมาจนถึงช่วงต้นปีนี้


ทั้งนี้ รายได้ในส่วนของกลุ่มธุรกิจพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัท อาทิ Data Center หรือผู้ให้บริการระบบ Server ต่างๆ ก็ได้รับ GPU เข้ามาแล้ว และกำลังส่งคำสั่งซื้อตัวระบบที่เกี่ยวข้อง อาทิ ระบบกำลังไฟและระบายความร้อนจากบริษัท โดยทุกคนเร่งจะทำให้ได้ก่อนกำหนดกำแพงภาษีของสหรัฐในช่วง 90วัน ที่จะสิ้นสุดลงในช่วงเดือน ก.ค. 68


ขณะที่แนวโน้มในระยะถัดไปหลังจากงวดไตรมาส 2/68 คาดว่ายังมีความไม่แน่นอนสูง จากนโยบายภาษีของประเทศสหรัฐที่ยังไม่ทราบว่าจะเจาะจงเรื่องกำแพงภาษีบางประเทศหรือหลายๆ ประเทศ โดยในส่วนของประเทศไทยหากแนวโน้มกำแพงภาษีจากสหรัฐใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งที่สำคัญก็เชื่อว่ายังสามารถคงความสามารถในการแข่งขันต่อไปได้ตามภาพรวมของตลาดโลก


อย่างไรก็ตามหากมีเหตุสุดวิสัยทำให้กำแพงภาษีของประเทศไทยหลุดกรอบจากประเทศใกล้เคียงก็ต้องมาดูสถานการณ์กันอีกที


ด้านงบลงทุนปีนี้ บริษัทเตรียมไว้ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ โดยจะเน้นใช้ในการลงทุนก่อสร้างอาคารใหม่และการติดตั้งสายการผลิตแบบอัจฉริยะเป็นหลัก

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 110 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 53.00-56.00 ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสถูกขายทำกำไร โดยมีแนวรับที่ 100 ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 88.00-90.00



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X