#crc #ทันหุ้น – บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC จัดประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 16 พ.ค.68 หลังแจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/68 โบรกเกอร์ออกบทวิเคราะห์ในวันที่ 19 พ.ค. มีมุมมองเชิงลบหลังการประชุมนักวิเคราะห์ มีการปรับลดคำแนะนำ ปรับลดราคาเหมาะสมของหุ้นลง
การซื้อขายหุ้น CRC วันที่ 19 พ.ค. ราคาเคลื่อนไหวในช่วง 18.20-18.80 บาท ก่อนปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 18.70 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือลดลง 1.58% มูลค่าการซื้อขาย 257.18 ล้านบาท
บล.ดาโอ ปรับเป้ารายได้และ GPM ในปี 2568 ลง จากสภาพเศรษฐกิจกดดัน
บล.ดาโอปรับคำแนะนำลงเป็น "ถือ" และมีการปรับราคาเป้าหมายปี 2568 ลงเป็น 27.00 บาทโดยอิง PER ปี 2568 ที่ 19 เท่า (หรือเท่ากับ -1.5SD below 3-yr average PER) จากเดิมที่ 45.00 บาท จากประมาณการที่ปรับลงประกอบกับ derate PER ลงจากสภาพเศรษฐกิจที่กดดันในช่วงที่เหลือของปี
บล.ดาโอมีมุมมองเป็นลบต่อการประชุมนักวิเคราะห์ไตรมาส 1/68 ที่จัดขึ้นวันที่ 16 พ.ค. 68 ที่ผ่านมาโดยยังคงเป้าการขยายสาขาตามเดิม แต่มีการปรับเป้าการเติบโตปี 2568 ลง; รายได้โต +4-6% (จากเดิม +6-10%), SSSG เป็น -3-5% (จากเดิมบวก +1-3%) และตั้งเป้า GPM ปี 2568 ลดลง -30-35bps จาก mix ของ low margin format (GO wholesale) และ SG&A/sales ลดลง -10-20bps YoY ทั้งนี้ในปี 2568 QTD SSSG เป็นเลขติดลบระดับ -4-6% โดยในเดือน เม.ย. ติดลบมากกว่าในไตรมาส 1/68 (-4%) ขณะที่เดือน พ.ค. กลับมาดีขึ้นเล็กน้อย ทำให้ SSSG YTD ปัจจุบันอยู่ที่ราว -4-6%
บล.ดาโอปรับประมาณการกำไรปี 2568-69 ลง -11% และ-5% อยู่ที่ 8.8 พันล้านบาทและ10.3 พันล้านบาท โต +9% และ +17% YoY จากเดิมที่ 9.9 พันล้านบาทและ 10.9 พันล้านบาท โต +22% และ +10%YoY จากการที่ผู้บริหารมีการปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ลง จากแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมเป็นติดลบและ GPM ที่หดตัว จากสภาพเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวที่กระทบต่อการบริโภคที่ลดลง
ราคาหุ้น underperform SET ต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จากคาดกลุ่มค้าปลีกได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการบริโภคที่ลดลงตามสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ไม่ฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี
.
บล.กสิกรไทยระบุว่า CRC ปรับลดประมาณการการเติบโตของยอดขายในปี 2568 ลงมาอยู่ที่ 4-6% และ SSSG อยู่ที่ -3 ถึง -5% จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ พร้อมคาด GPM จะลดลง 30-35bps แต่คาดว่าอัตราส่วน SG&A ต่อรายได้จะลดลง
2QTD SSSG ยังคงติดลบอยู่ที่ -4% ถึง -6% ซึ่งติดลบในทั้งสามประเทศ กลุ่มอาหารเริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัวในเดือน พ.ค. ขณะที่การใช้จ่ายในสินค้าฟุ่มเฟือยยังคงซบเซา
ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงเหลือ 2.8% ในไตรมาส 1/68 และบริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนหนี้ระยะยาว บล.กสิกรไทยได้ปรับลดประมาณการกำไรในปี 2568-70 ลง 3-4.5% เพื่อสะท้อนประมาณการใหม่ โดยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเหมาะสมที่ 25.30 บาท
.
บล.เมย์แบงก์ปรับลดคำแนะนำ CRC เป็น “ถือ” และปรับลดราคาเป้าหมาย (DCF) ลงเป็น 20.50 บาท จากเดิมที่ 40.00 บาทสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรและสมมติฐาน Terminal Growth ลดลง เพื่อสะท้อนยอดขายที่ชะลอและแนวโน้มที่ท้าทาย แม้ว่าธุรกิจอาหารจะมีแนวโน้มเติบโตดี แต่ธุรกิจแฟชั่นและฮาร์ดไลน์ (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์ปรับปรุงบ้าน) ยังเผชิญแรงกดดันจากการบริโภคที่อ่อนแอและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้า CRC ซื้อขายที่ P/E ปี 68 เพียง 13 เท่า หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ 1.5 SD แต่บล.เมย์แบงก์ยังไม่เห็นปัจจัยหนุนในระยะสั้น
บล.เมย์แบงก์ชอบหุ้น CPALL (แนะนำ “ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 68 บาท) มากกว่าเนื่องจากการเติบโตของกำไรที่ต่อเนื่องและราคาหุ้นที่น่าสนใจ
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม