#BRI #ทันหุ้น – BRI เผยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 1/2568 ได้รับแรงหนุนจากนโยบายรัฐ จ่อเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,800 ล้านบาท รวมถึงมี Backlog ราว 870 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ราว 500 ล้านบาท เพื่อ Roll Over หุ้นกู้ชุดเดิมในช่วงปลายปี และใช้ Inventory Finance และกระแสเงินสดมาช่วยในส่วนที่เหลือ
ดร.ศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2568 เริ่มฟื้นตัวจากไตรมาส 1/2568 จากตัวเลขในเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ดีกว่าเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ทั้งยอดจองและยอดโอน โดยได้แรงหนุนจากภาครัฐ ได้แก่ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งลดไปแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ เหลือ 1.75% จากเดิม 2.25% ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดี
นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนจากภาครัฐเรื่อง มาตรการลดค่าธรรมเนียม เช่น ค่าโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจำนองเหลือ 0.01% และที่สำคัญคือ การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว ที่เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2569 ซึ่งมาตรการนี้ช่วยให้ลูกค้ากู้ได้ง่ายขึ้น
@Q2 เปิดตัว 2 โครงการใหม่
โดยบริษัทได้วางกลยุทธ์ในไตรมาส 2/2568 จะเริ่มเห็นภาพการโฆษณาต่างๆ เพื่อสร้างการจดจำและความเป็น
แบรนด์ ผ่าน “ณเดชน์” เน้นจุดเด่นเรื่อง ทำเล ความสะดวกสบาย การเข้าถึง ความปลอดภัย ซึ่งบริษัทได้เตรียมเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 2,800 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ ได้แก่ โครงการ BRITANIA BANGSAEN (บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว) มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท จำนวน 247 ยูนิต ตั้งอยู่ที่ชลบุรี และโครงการ GRAND BRITANIA KRUNGTHEP KREETHA - SUVARNABHUMI มูลค่าโครงการ 1,550 ล้านบาท จำนวน 128 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนร่มเกล้า
ทั้งนี้แนวโน้มไตรมาส 2/2568 ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจซบเซา รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องภาษีการค้ากับสหรัฐ และการกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยว กำลังซื้อภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว การแข่งขันที่รุนแรงเพื่อแย่งชิงลูกค้า รวมถึงสถาบันการเงินยังคงมีเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าโครงการรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ประมาณ 870 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการที่ไม่ใช่กิจการร่วมค้า (JV) ราว 789 ล้านบาท และโครงการที่เป็น (JV) ราว 81 ล้านบาท โดยโครงการ BRANDED RESIDENCE มีสัดส่วนใหญ่ที่สุดมูลค่า 500 ล้านบาท คาดจะเริ่มโอนได้ 50% ในปีนี้ และอีก 50% ในปีหน้า ส่วน Backlog ที่เหลือคาดว่าจะโอนเสร็จภายในปีนี้
@เตรียมRoll Over หุ้นกู้ 500 ล.
อย่างไรก็ดีสำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระประมาณ 380 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทได้เตรียมเงินไว้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดปลายปี บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิม (Roll Over)โดยคาดหวังว่าจะออกได้ครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมาจากสินค้ารอขาย Inventory Finance และกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยบริษัทมีหนี้ระยะสั้นกว่า 3,000 ล้านบาท ที่ต้องชำระภายในปีนี้ ประกอบด้วยหนี้จากธนาคารประมาณ 2,000 ล้านบาท และที่เหลือเป็นหนี้จากหุ้นกู้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม