TOP มุมมอง บล.เอเซีย พลัส เหตุน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเล!

#ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส ส่องหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ได้เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นไทยออยล์ศรีราชา เนื่องจากเหตุสุดวิสัยจากคลื่นสูงและลมกระโชกแรงกะทันหัน

ขณะนี้ไม่มีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเติม และระบบทุ่น SBM-2 ไม่ได้เกิดความเสียหาย ส่วนคราบน้ำมันบนผิวน้ำทะเลบางส่วนหลุดออกจากแนวบูมที่กันไว้ แต่ไม่เข้าฝั่ง

TOP กำลังดำเนินการขจัดคราบน้ำมัน และชี้แจงว่าเหตุการณ์นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินเครื่องโรงกลั่น รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ SBM-1

*ข้อมูล-ผลกระทบ

ปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลลงทะเลในครั้งนี้อยู่ที่ 8 พันลิตร เป็นช่วงที่วาล์วกำลังปิดตัว

TOP มีประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิดในส่วนของ Property Damage วงเงิน 1.8 พันล้านเหรียญฯ, ประกันภัยความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก 50 ล้านเหรียญฯ และประกันภัยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม 25 ล้านเหรียญฯ รวมถึงประกันภัยขนส่ง

หากอิงกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในปี 2566 จะมีความแตกต่างกันทั้งในส่วนของสาเหตุการเกิด โดยในปี 2566 เกิดจากอุปกรณ์เสียหาย แต่ในครั้งนี้เกิดจากภัยธรรมชาติ รวมถึงปริมาณน้ำมันรั่วในปี 2566 อยู่ที่ 6 หมื่นลิตร ซึ่งมากกว่าครั้งนี้ที่ 8 พันลิตร

เบื้องต้นคาดผลกระทบในเชิงค่าใช้จ่ายคาดจะไม่สูงไปกว่าที่เกิดขึ้นในปี 2566 ที่มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขจัดคราบน้ำมันและเยียวยาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมรวมราว 200 ล้านบาท ซึ่ง TOP สามารถเคลมประกันหลังหัก deductible ได้ราว 168 ล้านบาท

*มุมมองฝ่ายวิจัย

แม้ผลกระทบในเชิงตัวเลขค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอาจจะไม่มีนัยสำคัญต่อประมาณการ แต่คาดว่าจะส่งผลกระทบเชิง sentiment ลบ ต่อความมั่นใจในการควบคุมดูแลเรื่องเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลของบริษัท เพราะเพิ่งเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลไปในปี 2566

คาดราคาหุ้นจะได้รับแรงกดดันในช่วงสั้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนั้น หากราคาหุ้นมีการปรับฐาน อาจดูจังหวะเข้า trading ได้ ตามค่าการกลั่นอิงตลาดสิงคโปร์ในปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงกว่า 7 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล และทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก ส่วนในภาพระยะยาว TOP ยังถือเป็นหุ้นที่ให้ปันผลสูง Dividend Yield เกือบ 7% ต่อปี ราคาเป้าหมาย 41.00 บาท