> เคล็ดลับลงทุน >

28 มีนาคม 2024 เวลา 22:31 น.

แนวโน้มการลงทุนกองทุนตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ เมื่อสิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

  • โอกาสที่จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของ FED น่าจะเกิดได้ในช่วงเดือนมิถุนายน
  • กองทุนรวมที่ถือตราสารหนี้ที่มีคุณภาพอายุเฉลี่ยตราสารระยะกลางขึ้นไป คือเป้าหมายที่จะได้รับประโยชน์จากการสิ้นสุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
  • อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ ได้กลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งเมื่อเทียบกับในอดีต
  • อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นช่วยให้ตราสารหนี้กลับมามีบทบาทแบบในอดีตอีกครั้งในฐานะแหล่งสร้างรายได้ที่พึ่งพิงได้และมีความเสี่ยงต่ำสำหรับนักลงทุนที่ซื้อและถือตราสารหนี้จนครบกำหนด
  • กองทุนที่มีทีมผู้จัดการการลงทุนมืออาชีพ มีทีมงานวิเคราะห์เชิงลึก และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน คือสิ่งจำเป็นในการหาโอกาสการลงทุน และช่วยจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายตราสารหนี้ เมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต

#Investment-Focus by KTAM สำหรับผู้ลงทุนในตราสารหนี้ปี 2022 เหมือนเป็นปีเริ่มต้นหลังจากจำศีลที่ยาวนาน จากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลายาวนาน และตั้งแต่การขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของ Fed ตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันดูเหมือนได้ผ่านการสิ้นสุดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐไปแล้ว และที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตราสารหนี้ที่กินระยะเวลามาเกือบ 2 ปีติดต่อกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายๆ ปี


ในทางกลับกัน Fed ใช้เวลาทั้งปีที่ผ่านมาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรืออาจจะมีการหยุดชั่วคราว จากนั้นขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง และตลาดก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง อัตราดอกกเบี้ยที่สูงขึ้นนั้นทำให้อัตราผลตอบแทนคูปองหน้าตั๋วของตราสารหนี้ที่จ่ายให้กับนักลงทุนสูงขึ้นแต่ก็ส่งผลเสียต่อราคา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผลตอบแทนรวมของตราสารหนี้ด้วย โดยผลตอบแทน ของดัชนี Bloomberg Aggregate Bond Index ในปี 2022 แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย


กลับมาในมุมมมองในปีนี้ เรายังเชื่อว่าปี 2024 การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อส่วนใหญ่จบลงแล้ว และธนาคารกลางได้บรรลุสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว ทำให้เราอาจจะมั่นใจได้ว่า การลงทุนในตราสารหนี้จะสามารถกลับมาทำหน้าที่เหมือนกับที่เคยทำในอดีตได้อีกครั้ง นั่นคือ ส่งมอบรายได้หรือผลตอบแทน พร้อมทั้งช่วยป้องกันผลกระทบจากการลงทุนโดยรวมของพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนจากตลาดหุ้นที่มีความผันผวนได้อีกครั้ง


หากนักลงทุนกำลังมองหาการสร้างผลตอบแทนที่เชื่อถือได้ ตอนนี้อาจเป็นเวลาที่ดีในการพิจารณาที่เพิ่มระดับการลงทุนในตราสารหนี้ และช่วยกระจายพอร์ตการลงทุนได้ดีอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง ซึ่งจะได้รับผลประโยชน์หาก Fed เปลี่ยนทิศทางของอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้น


รอเวลา FED ลงมือเปลี่ยนทิศนโยบาย

เนื่องจากราคาตราสารหนี้จะลดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ตลาดตราสารหนี้จึงมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แต่ยังได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย อัตราดอกเบี้ยและนโยบายการซื้อสินทรัพย์ของ Fed และธนาคารกลางอื่นๆ ได้กลายเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อตลาดตราสารหนี้ของโลกในช่วงที่ผ่านมา จุดสำคัญของนโยบายของ FED ที่ผ่านมาคือ การที่จะพยายามต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ และตลาดตราสารหนี้ก็ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา


การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด น่าจะได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และมีโอกาสที่เรากำลังจะเข้าสู่ภาวะกระทิงตัวใหม่ของตลาดตราสารหนี้ เพราะอัตราดอกเบี้ยกำลังกลับมาสู่บรรทัดฐานปกติแล้ว


มุมมองหรือการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายของ Fed มีความสำคัญต่อราคาพันธบัตรและตราสารหนี้ มากกว่าความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น การกลับตัวของเส้นอัตราผลตอบแทน (เมื่อพันธบัตรระยะสั้นจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าระยะยาว) หรือความเป็นไปได้ที่รัฐบาลต่างประเทศจะหยุดซื้อ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 


สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อความไม่แน่นอนและเพิ่มความผันผวนต่อตลาดตราสารหนี้ให้เพิ่มขึ้นได้อีก แต่สิ่งสำคัญจริงๆ ก็คือว่าเฟดจะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจะเปลี่ยนทิศทางดอกเบี้ยเมื่อไรคือคำถามที่สำคัญกว่า


Fed ที่ไม่ต้องการขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย ณ ปัจจุบัน หากเราได้เห็นอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มลดลงมาก มีโอกาสที่ FED จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วในการเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย เพราะโอกาสที่จะดำเนินการนั้นเพื่อไม่ให้ใกล้กับช่วงเลือกตั้งในสหรัฐมากจนเกินไป ก็จะเหลือระยะเวลาน้อยลงทุกที จนโอกาสที่จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก คือน่าจะเกิดได้ในช่วงก่อนเดือนมิถุนายน

การลงทุนในตราสารหนี้ที่พร้อมรับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ความไม่แน่นอนทั้งทางด้านเศรษฐกิจ, ผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง และการเปลี่ยนแปลงทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของ FED หากไม่สามารถจัดการได้อย่างราบรื่น อาจจะส่งผลกระทบการการถดถอยทางเศรษฐกิจในปีนี้ หรือปีหน้าที่จะถึงได้ไม่มากก็น้อย


ภาวะเศรษฐกิจถดถอยคือช่วงเวลาที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัว กำไรของบริษัทลดลง การว่างงานเพิ่มขึ้น และสินเชื่อสำหรับธุรกิจและผู้บริโภคเริ่มขาดแคลน ภาวะเศรษฐกิจถดถอยไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งความสุขสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นเท่าไรนัก จากข้อมูลในอดีตนับตั้งตั้งแต่ปี 1950 ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นกับสหรัฐฯ มีทั้งหมด 11 ครั้ง ตลาดหุ้นสหรัฐได้ตกลงโดยเฉลี่ยประมาณ 15% ต่อปีในช่วงที่เกิดการถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ *

* Source: Fidelity Investments proprietary analysis of historical asset class performance, which is not indicative of future performance.


แต่อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้สามารถผลตอบแทนได้ดี ในอดีตเมื่อเศรษฐกิจหดตัว ในทุกภาวะเศรษฐกิจถดถอยนับตั้งแต่ปี 1950 การลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ที่มีคุณภาพให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าหุ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางอื่นๆ มักจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยหวังว่าจะกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย การลดอัตราดอกเบี้ยมักทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงและราคาพันธบัตรและตราสารหนี้จะสูงขึ้นทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงระยะเวลาดังกล่าว


ความน่าสนใจของกองทุนตราสารหนี้

ในสภาวะตลาดในขณะนี้เราเชื่อว่าใกล้เคียงกับปี 2019 ที่เราเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของวงจรที่เข้มงวดของ Fed อาจจะเริ่มเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเริ่มลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ประเภทต่างๆ 


สำหรับนักลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับกับธีมการลงทุนที่หากเชื่อว่าตลาดเริ่มมีโอกาสในการที่จะลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงเพื่อป้องกันผลกระทบ กับโอกาสในการเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นใน 1-2 ปีข้างหน้า เพราะอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของอายุ 10 ปี และตราสารหนี้อายุ 10 ปีจากบริษัทคุณภาพดี สามารถเห็นดอกเบี้ยหน้าตั๋วได้ถึง 4.25% ถึง 6% (ที่มา: https://fred.stlouisfed.org/)



คอลัมม์: Investment-Focus by KTAM

โดย: ชัชพล สีวลีพันธ์

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บลจ. กรุงไทย

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X