สำนักข่าว"ทันหุ้น"รายงานว่า โบรกเกอร์มองกลุ่มแบงก์ในปี 2563 กำไรจะทรงตัวจากปีก่อน เหตุสินเชื่อขยายตัวไม่มาก และ NIM จะหดตัว โดยมีปัจจัยกดดันจากดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับตัวลงอีก 0.25% ขณะที่ Consensus ล่าสุด พบว่าหุ้นธนาคารที่ถูก Downgrade ประมาณการกำไรปีนี้ลงมามากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจะได้แก่ SCB และ TMB ที่ต่างถูกปรับลงราว 6.2% และ 3.9% โดยราคาหุ้นได้ปรับตัวสะท้อนไปแล้ว แต่ยังขาดปัจจัยกระตุ้น โดยเลือกหุ้น BBL-TISCO เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม
บล.ไทยพาณิชย์ หรือ SCBS คาดการณ์แนวโน้มกำไรสุทธิของกลุ่มแบงก์ในปี 2563 จะอยู่ในระดับทรงตัว ประเมินว่าสินเชื่อจะยังคงขยายตัวไม่มากที่ 3% และ NIM จะหดตัวลง โดยมีสาเหตุมาจากแรงกดดันจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าจะลดลงอีก 0.25% ขณะที่ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองจะลดลง เนื่องจากธนาคารไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งสำรองพิเศษภายใต้มาตรฐานบัญชี TFRS9 และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากการใช้นโยบายควบคุมต้นทุนและไม่มีการรับรู้ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานเพิ่มเติม
ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 4/62 ที่ต่ำกว่าคาด เนื่องจากมีการตั้งสำรองตามหลักความระมัดระวัง ซึ่งผลประกอบการได้สะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวแย่ลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการตั้งสำรองพิเศษตามหลักความระมัดระวัง ได้แก่หุ้น BBL SCB และ TMB
ปัจจุบันราคาหุ้นธนาคารส่วนใหญ่ต่ำกว่ามูลค่า โดยซื้อขายที่ระดับต่ำกว่าราคาค่าเฉลี่ยในอดีต เชื่อว่าภาวะซบเซาของกลุ่มธนาคารสะท้อนในราคาหุ้นไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมองไม่เห็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในอนาคต โดยยังเลือกหุ้น BBL และ TCAP เป็นหุ้น Top picks ของกลุ่ม เนื่องจาก valuation น่าสนใจที่สุด
คำแนะนำของ SCBS
หุ้น คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท)
BAY Buy 39.0
BBL Buy 200.0
KBANK Buy 155.0
KKP Neutral 70.0
KTB Buy 20.0
LHFG Neutral 1.4
TCAP Buy 63.0
TISCO Neutral 102.0
TMB Buy 1.8
ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน หรือ CNS คาดว่ากลุ่มแบงก์ในปีนี้ กำไรปกติ (ไม่รวมกำไรพิเศษจากการขาย SCB life ของ SCB ) จะอยู่ที่ 1.66 แสนล้านบาท ลดลง 1% โดยมีปัจจัยกดดันจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิทรงตัว เพราะ NIM ที่ลดลง เนื่องจากผลของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่กระทบเต็มปี , รายได้ค่าธรรมเนียมโตต่ำ เพราะการเข้ามาของยุคดิจิทัล รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้การเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมทำได้ยากมากขึ้น และคาดว่าธุรกิจประกันยังไม่ฟื้นตัว เพราะกฎเกณฑ์การขายประกันของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และคปภ.ที่เข้มงวดมากขึ้น และยังได้รับผลกระทบเพิ่มเติมการลดดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าอาจลดลงอีกครั้ง ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่โตต่ำ ทำให้คุณภาพสินทรัพย์ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม และความท้าทายในอนาคตจากการใช้ TFRS9
กลยุทธ์ขณะนี้ยังให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มแบงก์ ที่ Neutral โดยเลือกหุ้น TISCO และ BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม
คำแนะนำของ CNS
หุ้น ราคาเป้าหมาย (บาท) Upside/Downside (%) คำแนะนำ
BBL 202.00 37 Buy
KBANK 148.00 6 Neutral
KTB 19.20 19 Neutral
SCB 101.00 0 Neutral
TMB 1.72 12 Buy
KKP 76.00 11 Neutral
TISCO 112.00 11 Buy
TCAP 58.00 12 Neutral
บล.ทรีนีตี้ มองว่ากลุ่มธนาคารฯฟื้นตัวดีขึ้นภายหลังธนาคารส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/62 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้นักลงทุนหมดปัจจัยกังวลในระยะสั้น ซึ่งปรากฏการณ์ Buy on fact นี้มักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับกลุ่มนี้โดยตลอดในช่วงหลัง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไปยัง Consensus ล่าสุด พบว่าหุ้นธนาคารที่ถูก Downgrade ประมาณการกำไรปีนี้ลงมามากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจะได้แก่ SCB และ TMB ที่ต่างถูกปรับลงราว 6.2% และ 3.9% ตามลำดับ
ส่วน Top pick ของอย่าง BBL และ TISCO นั้นมีการถูกปรับลดลงเล็กน้อยเพียงแค่ 0.6% และ 1.1% ตามลำดับ จึงมองว่าทั้ง 2 ตัวนี้น่าจะปรับตัว Outperform กลุ่มได้ต่อไป แนะนำถือลงทุนต่อสำหรับพอร์ตการลงทุนระยะกลาง
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม