> อาหารสมอง >

24 มีนาคม 2020 เวลา 12:36 น.

ส่องการส่งออกของไทย…ในวันที่ COVID-19 เข้าขั้นวิกฤต

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลกและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างจนทำให้หลายฝ่ายคาดว่าเศรษฐกิจโลกปี 2563 อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) อีกครั้งในรอบกว่า 10 ปีนับตั้งแต่วิกฤต Hamburger ซึ่งแน่นอนว่าเศรษฐกิจไทยเองก็จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อมในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การบริโภคและการลงทุน รวมถึงการส่งออกซึ่งเป็นเครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 


ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขการส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ออกมาหดตัว 4.5% ดีกว่าที่หลายฝ่ายคาด โดยนอกจากจะได้อานิสงส์จากการส่งออกทองคำที่ขยายตัวถึง 180% แล้ว มีข้อสังเกตว่าตลาดส่งออกสำคัญของไทยที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ในสัดส่วนสูงทั้งจีน EU สหรัฐฯ ตะวันออกกลาง เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันคิดเป็นเกือบ 50%ของมูลค่าส่งออกรวมของไทยหดตัวน้อยกว่าที่คาด โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้

ตลาดจีน หดตัว2% เนื่องจากการส่งออกสินค้าบางส่วนได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยเฉพาะการส่งออกผลไม้สดและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่หดตัวสูงจากการปิดด่าน/ปิดท่าเรือ ขณะเดียวกันสินค้าที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันก็หดตัวต่อเนื่องจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลง อย่างไรก็ตาม การหดตัวดังกล่าวเป็นการหดตัวที่น้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาด (หลายฝ่ายคาดว่าการส่งออกไปจีนอาจหดตัวสูงจากการที่จีนมีการปิดเมืองในหลายเมืองซึ่งอาจกระทบกำลังซื้อและ Supply Chain) เนื่องจากได้ปัจจัยสนับสนุนจากสงครามการค้าที่ผ่อนคลายลง ทำให้สินค้าที่เคยถูกกดดันจากปัจจัยดังกล่าวกลับมาขยายตัวดี อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และเครื่องยนต์สันดาปฯ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เป็นต้น


· ตลาดEUขยายตัว 1.2% โดยเฉพาะตลาดอิตาลีและเยอรมนีที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเร่งตัวขึ้นมากยังขยายตัวได้เล็กน้อย จากเครื่องปรับอากาศและเครื่องยนต์สันดาปที่ขยายตัวสูง ทั้งนี้ การที่ตัวเลขการส่งออกของไทยไปตลาด EU โดยรวมยังขยายตัว อาจเป็นเพราะในเดือนกุมภาพันธ์ยังไม่เกิด Super Spread ในยุโรปทำให้หากจะดูผลกระทบจาก COVID-19 ในตลาดยุโรป อาจต้องรอประเมินตัวเลขส่งออกเดือนมีนาคมอีกครั้ง(ตลาดสเปนหดตัว 3.3% จากการส่งออกเครื่องปรับอากาศและรถจักรยานยนต์เป็นหลัก)


· ตลาดสหรัฐฯ หดตัวถึง 37% เนื่องจากฐานที่สูงในปีก่อนจากการส่งออกอาวุธกลับหลังจากมีการฝึก Cobra Gold อย่างไรก็ตาม หากหักอาวุธออก จะพบว่าตลาดสหรัฐฯ กลับมาขยายตัวถึง 18.3% จากปัจจัยสนับสนุนเดิมที่หลายสินค้าของไทยเข้าไปแทนที่สินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ ได้มากขึ้นจากสงครามการค้า อาทิ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อุปกรณ์กึ่งตัวนำ เครื่องประดับ เหล็ก เป็นต้น


ตลาดเกาหลีใต้ หดตัวเพียง 1.5% สวนทางกับยอดผู้ติดเชื้อของเกาหลีใต้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่เร่งตัวขึ้นเร็วที่สุดในโลก แต่เนื่องจากเกาหลีใต้มีมาตรการเด็ดขาดและมีประสิทธิภาพทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยสินค้าที่ช่วยประคองให้ตลาดเกาหลีใต้ไม่หดตัวมาก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เป็นต้น


· ตลาดญี่ปุ่น หดตัวถึง 11.1% สูงสุดเมื่อเทียบตลาดที่มีผู้ติดเชื้ออันดับต้นๆ ของโลก โดยสินค้าที่กดดันการส่งออกไทยไปญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ยังเป็นสินค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก อาทิ รถยนต์ เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นโดยรวมที่ชะลอลงมาตั้งแต่ช่วงก่อนเกิด COVID-19 อย่างไรก็ตามสินค้าอาหารซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตยังขยายตัวได้ โดยเฉพาะไก่แปรรูป ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรอันดับ 1 ของไทยไปญี่ปุ่น


· ตลาดอิหร่าน ขยายตัวถึง 25.9%จากการส่งออกยางพารา รถยนต์ ผลไม้กระป๋องที่ยังขยายตัวได้สูง เช่นเดียวกับตลาดตะวันออกกลางโดยรวมก็ยังขยายตัวได้ถึง 16.4% โดยตัวเลขการส่งออกไปภูมิภาคดังกล่าวที่ยังขยายตัวสูงอาจยังไม่ได้สะท้อนผลกระทบจาก COVID-19 มากนัก เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในตะวันออกกลางเริ่มเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้อาจต้องพิจารณาตัวเลขการส่งออกเดือนมีนาคมอีกครั้ง โดยเฉพาะในตลาดส่งออกหลักในภูมิภาคทั้งซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ อิสราเอล เป็นต้น ที่มียอดผู้ติดเชื้อเร่งขึ้นสูง


แม้ว่าการส่งออกของไทยโดยรวมในช่วง 2 เดือนแรกปี 2563 จะหดตัวเพียง 0.8% ดีกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญทั้งเกาหลีใต้ (-1.1%) สิงคโปร์ (-2.9%) ญี่ปุ่น (-1.7%) เป็นต้น แต่การส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2563 ยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงอยู่มากโดยเฉพาะสถานการณ์ COVID-19 ที่ไม่มีใครทราบว่าจะยุติลงเมื่อใดและยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ชัดเจน แต่ตัวเลขส่งออกในช่วงที่ผ่านมาก็สะท้อนได้บางส่วนว่าการส่งออกของไทยมีความยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าอดีตจากการมีสินค้าที่หลากหลายและการกระจายตลาดส่งออกที่ดี


ที่มา : ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X