ทันหุ้น-สู้โควิด- INTUCHดิ่งหลัง เทมาเส็ก ขายหุ้นอีก 135 ล้านหุ้น ราคา 45.12 บาท ต่ำกว่ากระดาน ฉุดหุ้นร่วงอีก 2.12% ด้านบริษัทยืนยันไม่กระทบ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ทุนสิงคโปร์เทขายหุ้นไทยมาตลอด คาดปรับพอร์ตตามปกติ ชี้ขายราคาต่ำกว่าทุนทำได้ เหตุได้ปันผลคุ้มค่าเงินลงทุนหมดแล้ว มองท้ายที่สุดแล้วโบกมือลา แต่พื้นฐาน INTUCH ไม่เปลี่ยน

"เทมาเส็ก" ยักษ์ใหญ่การลงทุนจากดินแดนสิงคโปร์ ได้เทขายหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ออกมาอีกรวมกว่า 135 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 45.12บาท รวมมูลค่า 6,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายอีกคำรบ หลังจากปี สิงหาคม 2562 ได้มีการเทขายอย่างหนักไปแล้ว 257 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 60บาท รวมมูลค่า 1.56 หมื่นล้านบาท

ล่าสุดวานนี้ (8 เม.ย.) พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น INTUCH 12รายการ จำนวน 37,015,000 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,670.12ล้านบาท และ INTUCH-F 1รายการ จำนวน 98,185,000 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 4,430.11ล้านบาท ส่งผลให้ราคาหุ้น INTUCH กระโจนลงมาด้านล่างก่อนที่จะปิดตลาดที่ 46.25 บาท ลดลง 2.12% ขณะที่ ADVANC ปิดที่ 187.50 ลดลง 3.85%

ทั้งนี้ การขายหุ้น INTUCH ของ "เทมาเส็ก" ครั้งนี้ที่ราคาหุ้นละ 45.12 บาท เป็นการขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ซื้อมาที่ระดับ 49.25บาท จากกลุ่มชินวัตร เมื่อปี 2549 ซึ่งก่อนหน้านั้นในช่วงปี 2555ที่ INTUCH ต้องการเพิ่มฟรีโฟลทกลุ่มทุนสิงคโปร์ก็ได้มีการขายต่ำกว่าราคาที่ซื้อขายออกไปในระดับ 40.10-41.60 บาท จำนวน 200ล้านหุ้น

ผลจากการขายหุ้นบิ๊กล็อตครั้งนี้ส่งผลให้ "เทมาเส็ก" ซึ่งถือหุ้นผ่าน THE HONGKONG AND SHANGHAI BANKING CORPORATION LIMITED ลดลงจาก 301.95ล้านหุ้น หรือ 9.42% เหลือเพียง 166ล้านหุ้นเท่านั้น หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 5% อย่างไรก็ดีมีคำถามว่า ทำไมเทมาเส็กจึงขายหุ้นช่วงนี้ ช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังแพนิค และราคาหุ้น INTUCH กำลังอ่อนตัวลง?

ฝั่ง INTUCH ระบุว่า การขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท ที่ยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท และยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง

ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า กลุ่มทุนสิงคโปร์มีแผนในการขายหุ้น INTUCH อยู่แล้ว รวมไปถึงหุ้นอื่นๆที่ถืออยู่ในไทย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการจัดพอร์ตใหม่ในช่วงนี้ที่ราคาหุ้นทั่วโลกลดลง เป็นเรื่องปกติ โดยการขายราคาต่ำนั้นสามารถทำได้เนื่องจากที่ผ่านมา กลุ่มทุนสิงคโปร์ได้รับปันผลจาก INTUCH ไปแล้วหุ้นละ 52.16บาท ขณะที่ต้นทุนที่ซื้อมาหุ้นละ 49.25 บาท

อย่างไรก็ดีผู้ถือหุ้นใหญ่ใน INTUCH ก็ยังเป็นกลุ่มสิงคโปร์อยู่โดย อันดับ 1คือ SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. ถือหุ้น 673.34ล้านหุ้น หรือ 21.00%

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ไม่ประหลาดใจต่อการทยอยลดสัดส่วนการถือหุ้นใน INTUCH ของเทมาเส็ก ที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวได้ทยอยลดสัดส่วนมาต่อเนื่องอย่แล้วจากระดับสูงสุดที่เคยถือใน INTUCH ช่วงต้นปี 2549กว่า 96% ของทุนชำระแล้วที่ต้นทุน 49.25บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้หากอิงจากผลตอบแทนที่ได้จาก INTUCH นับตั้งแต่ต้นปี 2549พบว่าเทมาเส็ก ได้รับเงินปันผลจาก INTUCH มาแล้วรวม 52.15บาทต่อหุ้น สูงกว่าต้นทุนการได้มาที่ 49.25 บาทต่อหุ้นแล้ว ในขณะที่ผลกระทบทางเศรษฐกิจจาการเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19ที่ขยายวงกว้างทั่วโลก และทิศทางการลงทุนในปัจจุบัน จึงเชื่อว่าเทมาเส็ก จะทยอยลดสัดส่วนการถือหุ้น INTUCH ที่เหลือทั้งหมดในท้ายที่สุด และอาจเป็น overhang ต่อราคาหุ้น INTUCH ชั่วคราว

แต่ประเด็นดังกล่าว ไม่มีผลต่อปัจจัยพื้นฐานของ INTUCH เพราะปัจจุบันไม่มีกรรมการใน INTUCH ที่มาจากเทมาเส็ก ยังคงมุมมองเดิมต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/63ของ INTUCH จะโตเล็กน้อย 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตามส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC ที่ฟื้นตัวเด่น ยังแนะนำซื้อหุ้น INTUCH โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 68 บาทต่อหุ้น