> SET > GUNKUL

15 พฤษภาคม 2020 เวลา 08:45 น.

GUNKULมุ่งฟันกำไรต่อ โซลาร์-วินฟาร์มมาแรง

ทันหุ้น –สู้โควิด –GUNKUL เข้าไฮซีซันของโซลาร์-วินฟาร์มในไตรมาส 2-ไตรมาส 3 ขณะที่ธุรกิจ EPC มี Backlog กว่า 7 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ 2-3 ปี ส่วนผลงานไตรมาสแรกกำไรพุ่งกระฉูด 95.25% ทะลุ 439 ล้านบาท มีรายได้รวม 1,774 ล้านบาท จากการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 25% แตะ 9 พันล้านบาท


นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ไตรมาส 1/2563 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรในส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.29% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 225 ล้านบาท มีรายได้รวมเท่ากับ 1,774 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายไฟฟ้า และส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าเท่ากับ 936 ล้านบาท รายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง และให้บริการเท่ากับ 261 ล้านบาท และรายได้จากการขายเท่ากับ 380 ล้านบาท


สำหรับแนวโน้มช่วงที่เหลือปีนี้บริษัทคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ 2-3 ปี จึงทำให้มั่นใจรายได้ และกำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยบริษัทยังคงเป้าการเติบโตปีนี้ไม่น้อยกว่า 25% หรือแตะ 9,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และแสงอาทิตย์ ยังคงเป็นตัวหลักในการสร้างรายได้และทำกำไรของบริษัทในปีนี้


*ธุรกิจไฟฟ้าเข้าไฮซีซัน


บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง GUNKUL ว่าประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/2563 ที่ 439 ล้านบาท (+95% YoY, -17% QoQ – no consensus) อย่างไรก็ตามหากตัดรายการพิเศษออก (Fx loss 80 ล้านบาท + การปรับมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์และการเข้าซื้อกิจการ 180 ล้านบาท) กำไรปกติจะอยู่ที่ 339 ล้านบาท (+49% YoY, -35% QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราคาด


ขณะที่การเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน มี Key driver หลักจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างปีเพิ่มขึ้น 32% (โครงการ Kimistu 34MW ในไตรมาส 2/2562, เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโซล่าร์ฟาร์ม 27 MW ในไตรมาส 1/2563 และโซล่าร์เวียดนาม 60MW ในไตรมาส 1/2563) ในขณะที่ไตรมาสต่อไตรมาส ลดลงเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าลมทำให้ Capacity Factor ลดลง


*เคาะเป้าหมาย 3.60 บาท


คงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ที่ 2.6 พันล้านบาท (+24% จากปีก่อน) แม้กำไรปกติไตรมาส 1/2563 คิดเป็น 13% ของประมาณการทั้งปี อย่างไรก็ตาม Major Earnings Contribution ของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจะอยู่ในช่วงไตรมาส 2-ไตรมาส 3 จากการเข้าช่วง High Season ของ Solar และ Wind Farm ในขณะที่ธุรกิจรับเหมาการดำเนินการงานที่เซ็นสัญญาไปแล้วยังเดินหน้าก่อสร้างตามปกติทำให้การเกิด COVID-19 ส่งผลกระทบจำกัดต่อผลประกอบการของบริษัทในปี 2563

ประเมินราคาเป้าหมาย 3.60 บาท อิงวิธี SOTP 1.ธุรกิจ Power producer อิง DCF (WACC 5.7% No TG) ได้มูลค่า 3.30 บาท 2.ธุรกิจ EPC อิงวิธี PER (ใช้ PER 16X เที่ยบเท่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม Construction service ย้อนหลัง 5ปี -1SD) ได้มูลค่า 0.30 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X