18 พฤษภาคม 2020 เวลา 06:50 น.
EA รายงานกำไรสุทธิ 1Q63 ที่ 1.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9%YoY จาก 1. การขายนำมันไบโอดีเซลที่เพิ่มขึ้นกว่า 120.42%YoYพร้อมราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 16.27 บาท/ลิตร สู่ระดับ 36.15 บาท/ลิตร โดยมาจากความต้องการใช้ CPOเพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมการใช้น้ำมัน B10ประกอบกับภัยแล้งส่งผลกระทบต่อผลผลิตปาล์ม รวมถึงการปรับคุณสมบัติ B100 เพื่อนำไปใช้เป็น B10 ได้ ช่วยหนุนให้ราคาขายสูงขึ้น 2. การผลิตและขายไฟฟ้า ขยายตัว 30.45%YoYหลังการ CODโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมานรวม 260 MWทั้งนี้มีปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีค่าความเข้มของแสงเพิ่มขึ้น
สำหรับการดำเนินงานธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จำเป็นต้องเลื่อนการผลิตและส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า MINE SPA1 เนื่องจากลูกค้าหลักซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถยนต์สาธารณะในบริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จึงมีการปรับเลื่อนระยะเวลาการผลิตและส่งมอบออกไปเป็นช่วงไตรมาสที่ 4Q63 ถึงไตรมาส 4Q64
แนวโน้ม 2Q63 อาจอ่อนตัวลง QoQจากธุรกิจไบโอดีเซลที่มีแนวโน้มที่ลดลงจากปริมาณการจำหน่ายที่แปรตามการเดินทางที่ลดลงจากมาตรการของภาครัฐเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ส่วนการเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สารเปลี่ยนสถานะหรือ Bio-PCM จะมีสัญญาณที่ดี โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตและจำหน่ายในช่วงกลางปี ส่วนธุรกิจการขายไฟฟ้ายังคงเติบโตต่อเนื่อง
แนะนำ “เคาะ” ครับ ระยะสั้นปรับตัวลงทดสอบSMA25วันยืนเหนือได้มั่นคงพร้อมกลับตัวขึ้นดว้ยแท่งเทียนสีขาวยาวโดยผ่านยืนSMA10วันขึ้นมาเป็นสัญญาณซื้อแท่งเทียน ระหว่างวันแนวต้านจุดสูงแท่งเทียน 39.50 ผ่านขึ้นมาและVoulmeเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นสัญญาณชี้นำการทดสอบแนวต้านหลักกรอบสามเหลี่ยมSymmetrical Triangle คำแนะนำของ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่มเมื่อทดสอบผ่าน 39.50 ได้มั่นคงเป็นBuy
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 38.00/37.25 ไม่ควรต่ำกว่า
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม