> SET > CENTEL

25 พฤษภาคม 2020 เวลา 08:00 น.

CENTELกลับมาไตรมาส3 เปิดโรงแรมครบ-พ้นต่ำสุด

ทันหุ้น – สู้โควิด – CENTEL เล็งเปิดให้บริการโรงแรมทั่วประเทศไตรมาส 3/2563 รับไทยเที่ยวไทย หลังคลายล็อกดาวน์ยอมรับธุรกิจโรงแรมปีนี้ติดลบ 40-50%ด้านธุรกิจอาหารโตก้าวกระโดดรายได้การส่งอาหารเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้น 200% พร้อมปรับลดงบลงทุนเหลือ 4.5 พันล้านบาท เลื่อนเปิดโรงแรมใหม่ในดูไบ เล็งปิดดีล M&A ธุรกิจอาหารในปี 2565 โบรกชี้ถึงจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/2563 แนะซื้อเป้า 26 บาท


นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า มั่นใจธุรกิจโรงแรมในประเทศจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3/2563 โดยนักท่องที่ยวกลุ่มหลักจะเป็นจากนักท่องเที่ยวในประเทศ และกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะที่ยอมรับว่ารายได้รวมทั้งปี 2563 จะยังถูกกดดันจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่คาดว่าจะยังติดลบประมาณ 40-50% จากช่วงเดียวกันปีก่อน


*รายได้เดลิเวอรี่โต 200%


สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิว และมาตรการล๊อกดาว์ ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน แต่รายได้จากการส่งอาหารร่วมกับผู้ประกอบการเดลิเวอรี่ขยายตัวได้กว่า 200% และจากมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 2 ร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดให้บริการได้ โดยเน้นมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด ทำให้คาดการณ์ภาพรวมทั้งปี 2563 ของกลุ่มธุรกิจอาหารจะติดลบประมาณ 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน


“ยอมรับว่าปีนี้เราได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงมาตรการล๊อกดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลก กดดันรายได้รวมทั้งปี 2563 น่าจะติดลบ ซึ่งกลุ่มธุรกิจโรงแรมน่าจะกลับมาเปิดให้บริการได้ในเดือนกันยายนนี้ โดยจะทยอยฟื้นตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยว ขณะที่ธุรกิจอาหารเรามั่นใจว่าภายในไตรมาส 4/2563 จะฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติที่มีรายได้เฉลี่ยประมาณพันล้านบาท ประกอบกับเรายังคงเน้นการบริการจัดการต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้อยู่ในระดับต่ำ ทำให้เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนอย่างแน่นอน” นายรณชิต กล่าว


*ดีล M&A แบรนด์อาหาร


นายรณชิต ย้ำว่า บริษัทได้ปรับลดงบลงทุนในปี 2563 ลงมาอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท โดยเลื่อนการลงทุนโรงแรมใหม่ในประเทศดูไบออกไปเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4/2564 จึงเหลือเพียงงบปรับปรุงเพื่อยกระดับโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ท สมุย ขึ้นเป็นโรงแรมระดับ 6 ดาว ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤษภาคม 2563 นี้ สำหรับครึ่งหลังปีนี้จะมีการเปิดโรงแรมในลาว เมียนมา ตุรกี การ์ตา และไทย รวมจำนวนห้อง 1,200 ห้อง


ทั้งนี้ บริษัทยังคงงบประมาณด้านลงทุนระยะ 5 ปี (2562-2566) ไว้ประมาณ 18,000 ล้านบาท โดยการลงทุนจะเร่งตัวขึ้นในช่วงปี 2565 ซึ่งมีแผนเข้าเทคโอเวอร์หรือควบรวมกิจการ (M&A) ธุรกิจอาหารด้วยประมาณ 500 ล้านบาท


ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีอัตราหนี้สินที่มีต้นทุนดอกเบี้ย ที่ 0.5 เท่า และ ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 ที่ 0.7 เท่า โดยบริษัทจะรักษาระดับหนี้สินที่มีต้นทุนดอกเบี้ยทั้งปี 2563 ไว้ไม่เกิน 1.25 เท่า


*ถึงจุดต่ำสุดแล้วใน Q2/63


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดว่าผลการดำเนินงานของ CENTEL จะถึงจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/2563 โดยร้านอาหารจะกลับมาให้บริการขายอาหารในร้านได้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2563 ในขณะที่โรงแรมบางแห่งเตรียมพร้อมในการกลับมาเปิดบริการเพื่อตอบสนองอุปสงค์ในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม โรงแรมในมัลดีฟส์ของบริษัทก็ยังปิดอยู่และยังไม่มีสัญญาณว่าจะกลับมาเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ ในบรรดาหุ้นกลุ่มนี้ที่ศึกษาอยู่ ยังคงเลือก CENTEL เป็น Top-Pick เนื่องจาก 1.มีความเสี่ยงทางการเงินต่ำที่สุด และ 2. ธุรกิจร้านอาหาร (76% ของรายได้ในปี 2563F) ฟื้นตัวไวกว่าธุรกิจโรงแรม ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมายที่ 26.00 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X