เมื่อจีนเตรียมออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง ฝั่งสหรัฐก็ขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรตอบโต้จีน หากจีนใช้มาตรการเพื่อจัดการกับผู้ประท้วงและจำกัดการเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตยในฮ่องกง ก่อนหน้านี้วุฒิสภาสหรัฐฯก็เพิ่งมีมติผ่านร่างกฎหมาย "Holding Foreign Companies Accountable Act"อาจส่งผลให้บริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐโดนถอดถอนออกจากตลาด รวมถึงบริษัทจีนในอนาคตที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นสหรัฐก็จะทำได้ยากลำบากขึ้น

ปัจจัยกระทบระลอกใหม่เตรียมก่อตัวขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดอาการ หวั่นวิตกว่าจะก่อให้เกิดสงครามการค้าสหรัฐ-จีนขึ้นมารอบใหม่ ทำให้บรรยากาศการลงทุนเสียหายได้ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่คลี่คลาย หลังหลายประเทศคลายมาตรการล๊อกดาวน์ และการคิดค้นวัคซีน ประกอบกับตลาดหุ้นไทยราคาจัดได้ว่าค่อนข้างแพงแล้ว อัพไซด์ขึ้นด้านบนเลยจำกัด บนค่าพีอี 18-19 เท่า ณ เวลานี้ โอกาสปรับฐานถึงย่อตัวจาการขายทำกำไรของนักลงทุนโดยเฉพาะกองทุน ที่เป็นฝ่ายเก็บหุ้นมาตลอด สวนทางกับต่างชาติที่ยังขายมาตลอด นัยความเสี่ยงจึงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานก็เป็นอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะไตรมาส 2/63 ที่คาดกันว่าจะแย่ที่สุดของปี ปัจจัยที่สนับสนุนพื้นฐานอย่างแท้จริงของตลาดจึงดูไม่ดึงดูดให้เหมาะแก่การลงทุนมากนัก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลการดำเนินงานจะค่อยๆฟื้นตัวกลับมาได้ในที่สุด แต่อาจต้องใช้เวลาสักระยะในการฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มการท่องเที่ยว โรงแรม และอสังหาฯ ขณะที่กลุ่มที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้เร็ว กลุ่มอาหาร และค้าปลีก

ส่วนกลุ่มที่มาแรงแซงโค้ง ยางพารานำทีมโดย STA ที่ร้อนแรงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาบนกระดานพุ่งเกินกว่า 100% ไปแล้ว เมื่อเทียบช่วงที่เกิดโควิด-19 ที่ราคาร่วงลงไปแถวๆ 9 บาท ตอนนี้ราคาวิ่งทะลุ 23 บาทไปเรียบร้อย โดยก่อนหน้านี้เป็นหุ้นที่ไม่ได้หวือหวา หรือได้รับความสนใจจากนักลงทุนเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไร เล่นกันอย่างคึกคักโดดเด่นที่สุดในขณะนี้

ทั้งนี้ ด้วยผลประกอบการไตรมาส 1/63 ที่ประกาศออกมาเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีกำไรสุทธิ 854.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 627.68 ล้านบาท เพราะได้รับประโยชน์จากโควิด-19 ทำให้ความต้องการถุงมือยางพุ่งสูงขึ้น จนมียอดสั่งซื้อล่วงหน้าเข้าเป็นจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานที่เหลือของปีนี้ จะเติบโตดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนจึงแห่เข้าไปเล่นกัน อีกทั้งมีนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายหุ้นตัวนี้กว่า 30 บาท เมื่อเทียบราคาบนกระดานตอนนี้จึงมีช่องว่างให้เก็งกำไรส่วนต่างราคาหุ้นได้

นอกจากนี้ ยังมีสตอรี่เรื่องการนำบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ จำกัด (มหาชน) หรือ STGT บริษัทลูกของ STA ที่ประกอบธุรกิจถุงมือยางโดยเฉพาะ ซึ่งกำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในไตรมาส 3/63 นี้ โดยมีจำนวนหุ้นไอพีโออยู่ที่ 444.78 ล้านหุ้นซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้นให้กับ STA ได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่องไม่พักเลย ประกอบกับปัจจัยบวก เรื่องผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่ออกมา รวมถึงคาดการณ์ผลการดำเนินงานในปีนี้นั้น และเรื่องการนำบริษัทลูกเข้าตลาดในปีนี้ ราคาน่าจะมีการตอบรับไปมากแล้ว แม้โมเมนตั้มราคาหุ้นยังเปิดอัพไซค์ขึ้นได้อีก แต่ราคาตอนนี้ถือว่าไม่ถูกแล้ว ความเสี่ยงในการปรับฐานของราคา หรือการขายเล่นรอบทำกำไรจึงมีความเป็นไปได้สูง การเข้าร่วมวงเล่นด้วยในตอนนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวัง แม้สถานการณ์โควิด-19 จะจบลงแต่ผลการดำเนินงานของ STA จะยังไม่จบลงไปด้วยอย่างแน่นอน ตลาดถุงมือยางจะยังเติบโตได้อีกไกลแน่ โชคดีครับ