> กองทุน >

27 พฤษภาคม 2020 เวลา 09:00 น.

กูรูส่องธีมลงทุนหุ้นโลก เทคโนโลยี-เฮลธ์แคร์เด่น

ทันหุ้น-สู้โควิด: เปิดมุมมองธีมลงทุนหุ้นโลก บลจ.วี ยกหุ้นเทคโนโลยี และเฮลธ์แคร์ ดาวเด่นอนาคตไกล ขณะที่ ทิสโก้เวลธ์ ชอบ อีคอมเมิร์ซ การศึกษาออนไลน์ และดิจิตอลเฮลธ์แคร์ เด่น เป็นกระแสเมกะเทรนด์โลก


นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด หรือ บลจ.วี ให้มุมมองการลงทุนภายใต้เศรษฐกิจถดถอยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่าให้เลือกลงทุนในธุรกิจหรือบริษัทที่แข็งแกร่ง และยังคงเติบโตได้ดีแม้จะมีโควิด-19 เข้ามาก่อกวน โดยกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตดีอย่างเด่นชัด คือกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มเฮลธ์แคร์ ซึ่งไตรมาสแรกปีนี้ผลประกอบการยังออกมาดี และถือว่าดีกว่าที่ตลาดคาดด้วย


ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน การเงิน และอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เต็มๆ จนทำให้มีการเทชขายเพราะขาดความเชื่อมั่นต่อหลักทรัพย์กลุ่มนี้ ทางกลับกันหุ้นเทคโนโลยี และเฮลธ์แคร์ที่เป็นดาวรุ่งในยามวิกฤติ ซึ่งนายอิศรา เล่าว่า ตอนนี้ก็มีนักลงทุนตั้บงคำถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเห็นการขายหุ้นเทคโนโลยี และเฮลธ์แคร์ เพื่อทำกำไร เพราที่ผ่านมาก็ขึ้นไปสูงมากแล้ว ขณะเดียวกันก็เข้าไปเก็บหุ้นพลังงาน การเงิน กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีราคาถูกแทน


“เรามองว่าในระยะสั้นน่าจะยังไม่เกิดการขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และเฮลธ์แคร์ ส่วนหนึ่งเพราะสภาพเศรษฐกิจยังไม่ได้กลับมาดีขึ้น ขณะที่การลงทุนในเทคโนโลยี และเฮลแคร์ ก็เป็นกระแสโลก ดังนั้นยังมองว่ายังน่าสนใจในระยะยาว”


ทางด้าน นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ชี้ว่าภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เสณษฐกิจถดถอย หากยังมี 3 กลุ่มธุรกิจภายใต้เมกะเทรนด์โลกมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด นั่นคือ กลุ่มอีคอมเมิร์ซ (E-commerce), ดิจิตอลเฮลธ์แคร์ (Digital Helthcare) และการศึกษาออนไลน์ (Edutainment)


สำหรับสาเหตุที่ทำให้ 3 กลุ่มธุรกิจข้างต้นเติบโตได้ดี มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม กลุ่มอีคอมเมิร์ซ  จึงได้ประโยชน์ และรับผลเชิงบวกมากที่สุด เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านเพื่อลดการติดเชื้อ และแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนไปสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น จึงสนับสนุนการขยายตัวในกลุ่มอีคอมเมิร์ซ


โดยตัวอย่างของบริษัทที่เติบโตอย่างโดดเด่น คือ บริษัท Netflix ที่ประกาศผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเติบโตกว่า 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และบริษัท Chegg ผู้ให้บริการ เช่า, ซื้อ-ขาย หนังสือเรียนออนไลน์ ที่รายได้ไตรมาส 1/2563 เติบโตถึง 35% YoY และมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 35%YoY


ขณะที่กลุ่มดิจิตอล เฮลธ์แคร์ ก็ได้รับประโยชน์จากความต้องการนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เกิด COVID -19 แพร่ระบาด เช่น การพบแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยผู้นำตลาดอย่างบริษัท Teledoc ประกาศว่าในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมามีจำนวนผู้เข้าใช้บริการกว่า 2 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นราว 92% จากปีก่อนหน้า และบริษัท Moderna ธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมไบโอเทคการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันกำลังทดลองวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ขั้นที่ 2 ในมนุษย์และมีแนวโน้มที่สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสได้ดี


กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มการศึกษาออนไลน์ ที่ได้รับผลบวกจากการที่ COVID-19 แพร่ระบาดส่งผลให้มีผู้ใช้บริการมากขึ้นจากเดิมที่ธุรกิจนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตที่สูงอยู่แล้ว เช่น บริษัท GSX ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียนพิเศษออนไลน์ในประเทศจีน ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมารายได้ของบริษัทเติบโตกว่า 300%

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X