> SET > DOHOME

02 มิถุนายน 2020 เวลา 08:45 น.

DOHOMEเปิดทุกสาขา ยอดขายเดิมพลิกบวก

ทันหุ้น –สู้โควิด –DOHOME เผยกลับมาเปิดดำเนินการทั้งหมดแล้ว มองกำลังซื้อทยอยฟื้นตัว มั่นใจ SSSG กลับมาเป็นบวก เดินหน้าเปิดสาขาใหม่ตามแผน ใช้งบลงทุนราว 1 พันล้านบาท มองโอกาสขยายไปตลาด CLMV โกยยอดขายเติบโตระยะยาว ฟากโบรกมองระยะกลาง-ระยะยาวมีโอกาสเติบโตหลายเท่า ชี้เหมาะสมที่ 9.40 บาท


นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า ภายหลังจากภาครัฐคลายล็อคให้ห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดดำเนินการได้ ซึ่งสาขาของบริษัทได้กลับมาเปิดดำเนินการทั้งหมดแล้ว จากก่อนหน้านี้มีการปิดให้บริการสาขาชั่วคราวทั้งสาขาขนาดใหญ่และดูโฮม ทูโกบางสาขา ตามมาตราการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ของรัฐบาล ทำให้ช่วงที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบบ้างยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบ โดยตั้งแต่วงต้นไตรมาส 2/2536 นั้น SSSG สะสมขณะนี้ติดลบไม่เกิน 5%ถือว่าผลกระทยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้


โดยบริษัทคาดว่ายอดขายจะทยอยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยขณะนี้กำลังซื้อจากผู้รับเหมางานเอกชนอาจจะยังน้อย แต่ในด้านผู้รับงานของงานภาครัฐ มีเข้ามาต่อเนื่องหลังภาครัฐมีการผ่านงบประมาณในการดำนินโครงการต่างๆ นอกจากนี้สินค้าตราห้าง (House Brand) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าสัดส่วนยอดขายในกลุ่มจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ในปี 2565 จากปัจจุบันอยู่ที่ 17.3%ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นดี จึงเป็นแรงหนุนที่จะผลักดันมาร์จิ้นโดยรวมของบริษัทให้เพิ่มขึ้น


*เปิดสาขาใหม่ตามแผน


ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าในการเปิดสาขาใหม่ โดยวางแผนจะเปิดสาขาขนาดใหญ่จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1. จังหวัดสุรินทร์ คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ สาขาที่ 2 อยู่ที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง คาดว่าจะเปิดสาขาได้ในไตรมาส 3/2563 และสาขาแห่งที่ 3 ที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงไตรมา 4/2563


โดยสาขาขนาดใหญ่จะใช้เงินลงทุนราว 300 ล้านบาทต่อสาขา ไม่รวมค่าที่ดิน และจะเริ่มทยอยเปิด Dohome to goอีก 5 แห่งภายในปี โดยใน 2สาขาแรกจะเปิดในช่วงไตรมาส 2/2563 และอีก 3สาขาคาดว่าจะเปิดช่วงไตรมาส 3/2563 ซึ่งสาขาDohome to go ใช้เงินลงทุนราว 2-5 ล้านบาทต่อสาขา ทำให้คาดว่าปีนี้จะใช้เงินลงทุนทั้งหมดราว 1 พันล้านบาท โดยบริษัทเชื่อว่าบริษัทยังมีโอกาสทางธุรกิจในการขยายสาขาได้ต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโต และยังมองโอกาสที่จะขยายสาขาไปในกลุ่ม CLMV


*ระยะยาวโตหลายเท่า


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุถึง DOHOME ว่าผลกระทบช่วงเดือนเมษายน 2563 ต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ โดยถือเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการของฝ่ายวิจัย จากเดิมในไตรมาส 2/2563 ที่ เชื่อว่าน่าจะเห็นผลกระทบหนักจากการปิดสาขาโดยคาดว่า SSSG จะลดลงถึง 38% แต่จากทิศทาง SSSG งวดไตรมาส 2/2563 ที่จะลดลงเพียงราว 10-15% ดีกว่าคาดว่าจะลดลงแรง จึงปรับกำไรปี 2563-2564เพิ่มขึ้น 12.5% และ5.8% ตามลำดับ ภายใต้สมมติฐานหลัก


ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลัง ยังกำหนดคาดว่า SSSG จะลดลงราว 12%แต่ทั้งปีคาดว่าจะดีขึ้นจากประมาณการเดิม เป็นลดลง11.6%โดยคาดกำไรปกติปีนี้จะลดลงราว 6.8% แต่คาดว่าปี 2564 กำไรจะกลับมาเติบโตถึง 30.2%


อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยยังชื่อชอบในธุรกิจของ DOHOME โดยนอกจากสามารถประคองตัวได้ดีมากในระยะสั้น ภาพระยะกลางถึงระยะยาว ที่ยังเห็นโอกาสเติบโตได้อีกหลายเท่า ภายใต้จุดแข็งกลยุทธ์ราคาและความครบสินค้าคาดว่าจะสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดร้านค้าดั้งเดิมได้ และโมเดิร์น เทรดพร้อมๆกั น แม้จะรุกเปิดสาขาหลังคู่แข่ง


นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพต่างๆ คาดหนุนกำไรได้อีกหลายปี รวมทั้งเปิดสัดส่วน Private Brand ที่มีช่องว่าจากผู้นำ HMPRO อีกพอสมควร ประเมินราคาเหมาะสมที่ 9.40 บาท ยังมีอัพไซด์ และเลือกเป็นหุ้น Top Pick

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X