ทันหุ้น-สู้โควิด TAKUNI คอนเฟิร์มผลงานปีนี้เป็นบวก ยืนยันขายที่ดิน พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ รับเงิน 200 ล้านบาท มองหาธุรกิจใหม่เสริมฐานแกร่ง หลังราคาน้ำมันผันผวนแรง เชื่อรายได้ปีนี้ผ่านฉลุย ใกล้เคียงปีก่อน 3 พันล้านบาท ธุรกิจก่อสร้างไปได้สวย ตุนแบ็กล็อก 2.2 พันล้านบาท

นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า บริษัทคาดทิศทางผลประกอบการปี 2563 จะเป็นบวก และยังมีกำไรจากการดำเนินงานตลอดทั้งปี แม้บางไตรมาสผลประกอบการจะเป็นลบ และเป็นบวกสลับกันไป

ก่อสร้างโตเด่น

บริษัทมองทิศทางธุรกิจจัดหา และจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวในไตรมาส 2/2563 อาจจะชะลอ เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ส่งผลต่อปริมาณการใช้และการขายก๊าซปรับตัวลดลง ขณะที่ธุรกิจก่อสร้าง บริษัท ทาคูนิ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ ยังเติบโตได้ดี และคาดจะเป็นสัดส่วนรายได้หลักให้กับบริษัท โดยปัจจุบัน CAZ มีงานในมือ หรือ Backlog อยู่ที่ 2.22 พันล้านบาท และจะรับรู้รายได้เข้ามาตามระยะสัญญา 12-18 เดือน นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่มูลค่ารวมราว 3.81 พันบ้านบาท

ขณะที่ธุรกิจทดสอบและตรวจสอบความปลอดภัยทางวิศวกรรม โดย บริษัท ราชพฤกษ์วิศวกรรม จำกัด บริษัทมองทิศทางธุรกิจยังเติบโตได้ดี ตามการขยายตัวของโรงงาน และลูกค้าในกลุ่มปิโตรเคมีในเขตโครงการเศรษฐกิจพิเศษ หรือ EEC และจังหวัดระยองมีเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทยังมั่นใจว่าจะดำเนินการขายที่ดินของบริษัททาคูนิ ให้กับบริษัทร่วมทุนซึ่งจัดตั้งภายใต้ชื่อบริษัท เอ็กซ์แซคท์ เรียลเอสเตท ร่วมทุนระหว่างบริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 40% และบริษัท เอซ เอสเตท กรุ๊ป จำกัด ในสัดส่วน 60% มูลค่าการขายที่ดินราว 200 ล้านบาทได้ภายในปีนี้ โดยคาดจะโอนกรรมสิทธิ์ภายในปลายปี จากเดิมคาดจะโอนกรรมสิทธิ์และขายที่ดินแล้วเสร็จประมาณกลางปี หากเป็นไปตามแผนบริษัทคาดจะรับรู้กำไรพิเศษจากการขายที่ดินเข้ามาให้กับบริษัท และจะส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง บริษัทยอดมรับว่ามีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจภายในเครือ โดยเฉพาะธุรกิจจัดหาและจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินทิศทางธุรกิจดังกล่าวได้ชะลอตัวตั้งแต่ปี 2558 ดังนั้นจึงพยายามมองหาธุรกิจอื่นเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง โดยจะเห็นว่าบริษัทได้ลงทุนและดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างมองหาธุรกิจอื่นเพิ่มเติม ทั้งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิม และธุรกิจใหม่ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน หรือธุรกิจปกติที่กำลังดำเนินการอยู่

รายได้ผ่านฉลุย

นางสาวนิตา กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางรายได้ปีนี้ บริษัทคาดจะใกล้เคียงกับปีก่อน 3 พันล้านบาท โดย 3 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้วที่ 830.68 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3.50 ล้านบาท ทั้งนี้สัดส่วนรายได้หลักจะมาจากธุรกิจธุรกิจก่อสร้างบริษัท ทาคูนิ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รวม 70% และธุรกิจอื่นๆ 30%

อนึ่ง บริษัทมีธุรกิจในเครือ ได้แก่ ธุรกิจจัดหาจำหน่ายและขนส่งก๊าซ LPG ดำเนินการโดยบริษัท และบริษัท จีแก๊ส โลจิสติกส์ จำกัด (GG), ธุรกิจติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์และระบบท่อก๊าซอุตสาหกรรม ดำเนินการโดย บริษัท ทาคูนิ (ประเทศไทย) จำกัด (TT), ธุรกิจบริการทดสอบและตรวจสอบด้านความปลอดภัยทางวิศวกรรม ดำเนินการโดยบริษัท ราชพฤกษ์วิศวกรรม จำกัด (RE), ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ประเภท Oil & Gas ดำเนินการโดยบริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์