ทันหุ้น - KBANK ผนึก ThaiBMA คลอดหุ้นกู้สกุลต่างประเทศผ่านบล็อกเชน หวังช่วยเพิ่มความสะดวก-ลดต้นทุนการเงิน บิ๊ก "จงรัก รัตนเพียร" เผยประเดิมล็อตแรก 17 ล้านยูโร อายุ 3 เดือน พร้อมชูดอกเบี้ย 0.52% ต่อปี พ่วงมีหุ้นกู้ของ "ธนาคารกสิกรไทย" รวมอยู่ด้วย 3 หมื่นล้านบาท หวังระดมทุนเสริมสภาพคล่องธุรกิจให้แกร่งยิ่งขึ้น พร้อมส่องเทรนด์ตลาดบอนด์ฟื้นตัว หนุนมูลค่าตลาดสิ้นปีนี้แตะ 8-9 แสนล้านบาท

นายจงรัก รัตนเพียร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ล่าสุดทางธนาคารร่วมกับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ดำเนินการเสนอขายและออกหุ้นกู้ (บอนด์) สกุลเงินยูโรให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ โดยผ่านเทคโนโลยี Distributed Ledger Technology (DLT) หรือบล็อกเชน (Blockchain) ภายใต้โครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการให้บริการเกี่ยวกับตลาดทุน ซึ่งทาง KBANK ถือเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกในประเทศไทย ที่เสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศผ่านโครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมธุรกรรมดังกล่าว

ผนึกThaiMBAลุยหุ้นกู้ตปท.

ทั้งนี้ ความร่วมมือกับทาง ThaiBMA ในการเสนอขายหุ้นในกู้เงินสกุลต่างประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในงานนายทะเบียนหลักทรัพย์นั้น สำนักงาน ก.ล.ต.ให้นำร่องโครงการ Registrar Service Platform Phase 1 (RSP1) และบรรจุอยู่ในโครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการให้บริการเกี่ยวกับตลาดทุน รวมทั้งยกระดับการพัฒนาตลาดทุนไทย ตลอดจนยังถือเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนในระยะที่ 1 โดยเทคโนโลยีดังกล่าวมีความปลอดภัยสูง มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับการเสนอขายหุ้นกู้ได้หลายรูปแบบหลายสกุลเงินในอนาคตต่อไป

สำหรับการออกหุ้นกู้ครั้งนี้มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 17 ล้านยูโร ซึ่งเป็นทั้งรูปแบบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยแบ่งเป็น 17,000 หน่วย อายุหุ้นกู้ประมาณ 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย 0.52% ต่อปี และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่อันดับความน่าเชื่อถือระดับสูงสุด “F1+(tha)”

KBANKจ่อออกหุ้นกู้เพิ่ม

ขณะเดียวกันทาง KBANK ยังได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ของธนาคารกสิกไทยภายใต้โครงการดังกล่าว คิดเป็นวงเงินไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาทเพิ่มเติม (รวมอยู่ใน 17 ล้านยูโรแล้ว) ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตให้ธนาคารสามารถเสนอขายหุ้นกู้ภายใต้โครงการ Medium Term Note ได้ภายในระยะเวลา 2 ปี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของธนาคารในการจัดหาช่องทางของแหล่งเงินทุนที่หลากหลายรูปแบบ รองรับการขยายธุรกิจในส่วนต่างๆ อาทิ ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ ฯลฯ ในอนาคต รวมทั้งขอยืนยันว่าปัจจุบันธนาคารยังมีสภาพคล่องและฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง

ด้านนายศีลวัต สันติวิสัฏฐ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส KBANK กล่าวว่า กระบวนการจัดการและออกหุ้นกู้บนเทคโนโลยีบล็อกเชน เนื่องจากเห็นว่าเทคโนโลยีนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อธนาคารและระบบโดยรวม ทั้งในมุมของฐานข้อมูล ความปลอดภัยของข้อมูล และการใช้ประโยชน์ข้อมูลของผู้ร่วมตลาด 

รวมทั้งช่วยเพิ่มสะดวกต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในการออกหุ้นกู้ ไม่ว่าจะเป็นผู้จองซื้อ ผู้ถือหุ้นกู้ ผู้ออกหุ้นกู้ นายทะเบียน ผู้รับฝากทรัพย์สิน ให้สามารถทราบถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการออกหุ้นกู้ได้แบบเรียลไทม์ (Real Time) ประกอบกับยังสามารถลดต้นทุนทางการเงินได้ประมาณ 80-90% จากเดิมที่มีค่าธรรมเนียมเฉลี่ย 500-2,000 บาทต่อการซื้อและขายหุ้นกู้ต่อครั้ง และลดขั้นตอนในการติดต่อสื่อสาร และทำให้การตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่วันที่มีจองซื้อหุ้นกู้ จนถึงวันที่หุ้นกู้ครบกำหนดอายุ ซึ่งเดิมนั้นใช้ระยะเวลาประมาณ 15 วันด้วย

ขณะที่นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวเสริมว่าภาพรวมตลาดหุ้นกู้ในประเทศปัจจุบันนั้นถือว่าเริ่มเห็นทิศทางการฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมาทั้งในส่วนหุ้นกู้ที่การจัดอันดับเครดิตเรตติ้งตั้งแต่ "-AA" และต่ำกว่า "-AA" เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเมษายน 2563 โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่อันดับต่ำกว่า "-AA" นั้นไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี จากปัจจัยบวกดังกล่าวคาดตลาดหุ้นกู้สิ้นปี 2563 นั้นจะมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ราว 8-9 แสนล้านบาท