ประมาณการแนวโน้มรายได้ไตรมาสที่ 2 คาดเพิ่มขึ้นได้ QoQเนื่องจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ NamChe1ใน สปป.ลาว โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ DT1&2และ PhuYenTTPในประเทศเวียดนาม และโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม PICในประเทศไทย รวมถึงการเข้าซื้อโครงการ SPP1และ 2) การเข้าซื้อโครงการ อ่างทอง เพาเวอร์ 123เมกะวัตต์ ในเดือน มี.ค. 2563 และ 3) ต้นทุนการซ่อมบำรุงที่ลดลง อย่างไรก็ดีผู้บริหาร ปรับลดเป้าหมายรายได้ และกำไรปีนี้เหลือทำได้ใกล้เคียงปีก่อน จากเดิมที่คาดรายได้จะเติบโต 10-15% หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมบางโรงงานชะลอการผลิต ในช่วงเดือนเม.ย.63 แต่อย่างไรก็ตามมองว่าสถานการณ์น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากเริ่มเห็นการกลับมาผลิตของลูกค้าได้ตามปกติแล้วในช่วงเดือนพ.ค.นี้

ในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เข้ามาเต็มปีของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศเวียดนามกำลังการผลิต 677 เมกะวัตต์ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้รายได้และกำไรปีนี้ทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนหรือเติบโตได้เล็กน้อย จากปีก่อนที่มีรายได้ 4.4 หมื่นล้านบาท ส่วนงบลงทุนปี 2563-67 อยู่ที่ 7-7.5 หมื่นล้านบาทเพื่อรองรับการลงทุนพัฒนาโครงการในมือ และการเข้าซื้อกิจการ

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค การเรียงตัวแท่งเทียนมีแนวโน้มจบรอบขาลงขนาดเล็กในลักษณะDouble Bottom ระยะสั้นกลับตัวขึ้นยืนเหนือSMA10วัน 53.00 ด้วยแท่งเทียนสัญญาณบวก สอดคล้องกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มมีโอกาสกลับขึ้นทดสอบแนวต้านNeck Line 55.00 ผ่านยืนเป็นการกลับตัวขึ้นรูปแบบW-Shape

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ หรือซื้อเพิ่มเมื่อปรับทดสอบยืน 55.00 ได้มั่นคงเป็นBuy

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 53.00/51.50 ไม่ควรต่ำกว่า