ทันหุ้น - สู้โควิด - บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง SUPER ว่า คงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ที่ 1,610 ลบ. เติบโตสูงถึง 44.5%YoY ทำระดับสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจาก การรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เวียดนาม รวมจำนวน 4 โครงการ (187MW) เต็มปี และเริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานที่แสงอาทิตย์ที่เวียดนามอีก 2 โครงการ (100MW) คาดใน 1Q - 3Q63 รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ (SSE6) เคาะเป้าปี 2564 ที่ 1.47 บาทต่อหุ้นเหลือ Upside gain 47.0% แนะนำ "ซื้อ"

แนวโน้มรายได้ใน 2Q63 คาดที่ 1,698 ลบ. เติบโตเล็กน้อย 0.9%QoQ จากการ 1) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ โครงการ SEE6 ขนาด 8 MW ที่ COD ไปเมื่อสิ้นเดือน เม.ย. 63 และ 2) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม โครงการ Thinh Long ขนาด 50 MW เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก ภายหลังการดำเนินการโอนหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วใน 1Q63 และเติบโต 7.5%YoY

ถึงแม้รายได้ในประเทศบางส่วนจะหายไปจากการขายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 19 โครงการ รวมขนาด 118 MW เข้ากองทุนรวมโครงสร้างทางพื้นฐาน SUPEREIF แต่ก็ได้ชดเชยจากการดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนามเช่นกัน รวม 5 โครงการ รวมขนาด 237 MW ประกอบด้วย Phan Lam (37MW), Binh An (50MW), Van Giao 1 (50MW), Van Giao 2 (50MW) และ Thinh Long (50MW) ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q20 คาดที่ 55.4% ทรงตัว QoQ แต่ขยายตัวเล็กน้อย YoY คาด SG&A ที่ 151 ลบ. (+0.6%QoQ, +9.4%YoY) เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบริหารโครงการใหม่ๆ เราจึงคาดกำไรปกติใน 2Q63 ที่ 413 ลบ. (+0.3%QoQ, +19.4%YoY) ซึ่งหากใกล้เคียงคาดจะทำให้กำไร 1H63 คิดเป็น 51.2% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2563

แนวโน้มกำไรปกติใน 3Q63 คาดจะลดลงเล็กน้อย QoQ และเป็นจุดต่ำสุดของปีเป็นผลของฤดูกาลแต่ชดเชยบางส่วนจาก โครงการ Sinenergy Ninh Thuan ขนาด 50 MW ที่รับรู้รายได้เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก และจะเริ่มฟื้นตัวใน 4Q63 จากค่าแสงที่ทยอยดีขึ้นและมีโอกาสเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีเนื่องจากคาดว่ากำลังการผลิตไฟในเวียดนาม ขนาด 550 MW (490 MWe) จะเริ่มทยอย SCOD ตั้งแต่เดือน ต.ค. 63

เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ที่ 1,610 ลบ. (+44.5%YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจาก 1) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ โครงการ SEE6 (8MW) ซึ่ง COD ไปใน 2Q63 2) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม รวม 4 โครงการ รวมขนาด 187 MW เต็มปี และ 3) เริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เวียดนามอีก 2 โครงการ รวมขนาด 100MW ประกอบด้วย Thinh Long (50MW) และ Sinenergy Ninh Thuan (50MW) ที่จะเริ่มรับรู้รายได้ใน 1Q63 และ 3Q63 ตามลำดับ

ยังคงราคาเหมาะสมปี 2563 ที่ 1.47 บาทต่อหุ้น เหลือ Upside gain 47.0% จึงยังคงแนะนำ "ซื้อ" ปัจจุบัน ซื้อขายอยู่บน PER63 - 64 ต่ำเพียง 17.0x และ 10.7x ตามลำดับ มี Upside จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม โครงการ Loc Ninh 4 ขนาด 200 MW (160MWe) ที่เรายังไม่รวมไว้ในประมาณการ รวมทั้งโอกาสในการขายสัดส่วนการลงทุนบางส่วน เพื่อขยายลงทุนโครงการใหม่ที่มีกำลังการผลิตมากกว่าสัดส่วนที่ขายออกไป