ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 DTAC รายงานกำไรสุทธิ เท่ากับ 1,889 ล้านบาท (+25.8%QoQ, +20.0%YoY) โดยมีรายได้รวม เท่ากับ 19,160 ล้านบาท (-4.6%QoQ, -4.3%YoY) โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการบริการ และรายได้จากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และชุดหมายเลข โดย DTAC มีผู้ใช้บริการรวม 18.8 ล้านเลขหมาย ลดลง 8.35 แสนเลขหมาย โดยเป็นการลดลงของลูกค้าในระบบเติมเงินเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด-19 กว่า 7.57 แสนเลขหมาย ขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของรายได้จากค่าเช่าเครือข่าย 2300MHz จาก TOT ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เท่ากับ 3,137 ล้านบาท (-14.2%QoQ, -12.2%YoY) เนื่องมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายการตลาดภายใต้สถาณการณ์โควิด-19 รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหาร และการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง

แนวโน้มในครึ่งปีหลัง เรามองว่ารายได้จะยังคงลดลง เนื่องมาจากรายได้จากการขายและบริการที่ลดลง แม้ว่าแนวโน้มลูกค้าในระบบเติมเงินจะเริ่มกลับมามากขึ้น แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนของโควิด-19 ทำให้ DTAC ปรับลดงบลงทุนสำหรับปี อยู่ที่ 8,000 – 10,000 ล้านบาท จากการเลื่อนเวลาสับเปลี่ยนอุปกรณ์ 850/900MHz ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้า 5G แต่มองว่ายังเป็นผลกระทบในกรอบที่จำกัด เนื่องจากอุปกรณ์สื่อสารที่รองรับ 5G และความพร้อมของ Application ยังมีอยู่อย่างจำกัด

แนะนำ “เคาะ” ครับ สัญญาณเทคนิค ทดสอบไม่ผ่านยืนกลุ่มSMAที่ทำหน้าที่แนวต้านระยะสั้นพร้อมปรับตัวลงแรงในลักษณะPanic Sell ระยะสั้นปรับทดสอบบริเวณแนวรับจุดต่ำรอบก่อนหน้า 37.50-37.00 คาดเป็นการจบรูปแบบขาลงU-Shapeกลับหัว มีโอกาสกลับขึ้นทางเทคนิคจากภาวะขายมากและระดับราคาห่างSMAมาก แนวต้าน 38.25/39.50-40.00

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่มเมื่อยืนเหนือ 38.25 ได้มั่นคงเป็นBuy

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 37.50-37.00 ไม่ควรต่ำกว่า