> SET > TACC

05 สิงหาคม 2020 เวลา 09:30 น.

โบรกสแกนหุ้นTACC ส่องงบครึ่งหลังโตเด่น เคาะเป้าหมาย7บาท

ทันหุ้น - สู้โควิด – โบรกส่องกล้อง TACC คาดผลงานไตรมาส 2/63 ทำจุดต่ำสุดของปี เชื่อกลับมาเติบโตโดดเด่นช่วงครึ่งปีหลัง เคาะกำไรปีนี้ที่ 177 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 7 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ว่า  ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 7.00 บาท อิง 2564 PER ที่ 21.6x (เทียบเท่า -0.75SD 5-yr average PER 31.7x) คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 2/63 ที่ 40 ล้านบาท (-6.5% YoY, -6.6% QoQ) หดตัว YoY และ QoQ เป็นผลกระทบจากชั่วโมงการขายของ 7-11 ที่ลดลง และการรับรู้รายได้ลดลงของ character business จากการขยายสัญญาให้ลูกค้านานขึ้น


คาดมาร์จิ้น 32.5%


ทั้งนี้คาดว่า gross profit margin จะอยู่ที่ระดับ 32.5% (เทียบกับไตรมาส 1/63 ที่ 33.6% และไตรมาส 2/62 ที่ 31.1%) ขณะที่คาดรายได้ไตรมาส 2/63 ที่ 336 ล้านบาท (-16.4% YoY, +2.5%QoQ) จากการขยายสาขาของ 7-11 เพิ่มอีก 200 สาขา เป็น 12,183 สาขา จากเดิมไตรมาส 1/63 ที่ 11,983 สาขา


อย่างไรก็ตามคาดว่าไตรมาส 2/63 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีและจะกลับมาโตในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในไตรมาส 4/63 จากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสแรกของการเพิ่มขนาดแก้วที่ใหญ่ขึ้น (แก้วใหญ่ 22oz.) จากเดิมที่มีขนาดเดียว (แก้วเล็ก 16oz.) ทุกสาขาทั่วประเทศในเดือน ก.ย. 20


สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นและ outperform SET +26% ในช่วง 1 เดือน จากการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว ทำให้ชั่วโมงการขายเครื่องดื่มใน 7-11 เพิ่มขึ้น โดยคาด COVID-19 กระทบไตรมาส 2/63 เล็กน้อย คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 40 ล้านบาท (-6.5% YoY, -6.6%QoQ) หดตัว YoY และ QoQ เป็นผลกระทบจากชั่วโมงการขายของ 7-11 ที่ลดลง (04.00-22.00) ซึ่งเป็นไปตามมาตรการเคอร์ฟิวของภาครัฐเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19


รายได้ Q2 ที่ 336 ล.


แต่อย่างไรก็ตามเราคาดว่ารายได้ไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 336 ล้านบาท (-16.4%YoY, +2.5% QoQ) รายได้ขยายตัวเล็กน้อย QoQ จากการขยายสาขาของ 7-11 ซึ่งเราคาดว่าไตรมาส 2/63 จะขยาย 200 สาขา เป็น 12,183 สาขา (+1.7%QoQ) จากเดิมไตรมาส 1/63 ที่ 11,983 สาขา โดยเราคาดว่ารายได้จากการเปิดสาขาใหม่จะถูกชดเชยกับรายได้บางส่วนที่หายไป


ขณะที่คาดว่าผลประกอบการของไตรมาส 2/63 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และกลับมาเติบโตโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะไตรมาส 4/63 เนื่องจากจะรับรู้รายได้เต็มไตรมาสแรกของทุกสาขาทั่วประเทศในเดือน ก.ย. 20 จากการเพิ่มขนาดแก้วที่ใหญ่ขึ้น (แก้วใหญ่ 22 oz.) จากเดิมที่มีขนาดเดียว (แก้วเล็ก 16 oz.)

ทางฝ่ายคงกำไรสุทธิปี 2563และ2564  โต เพิ่มขึ้น 9% และ 12% ตามลำดัง คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 177 ล้านบาท (+9% YoY) และกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 198 ล้านบาท (+12% YoY) จาก 1) การขยายสาขาของ 7-11 โดยฉลี่ยปี 700 สาขา, และ 2) การจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราคาดว่า Gross profit margin ปี 2563 อยู่ที่ 31.5% ซึ่งยังคงรักษาใกล้เคียงระดับเดียวกับปี 2562 ที่ 30.7% จากการเพิ่มสัดส่วนยอดขายของสินค้าที่มี margin สูง อย่างไรก็ตามประการมาณกำไรสุทธิที่เราทำยังไม่รวมถึงรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่


ประเมินราคาเป้าหมาย TACC ที่ 7.00 บาท อิง 2021E PER ที่ 21.6x (เทียบเท่า -0.75SD 5-yr average PER 31.7x) ขณะที่ความเสี่ยงคือ รายได้หลัก ณ 1Q20 ยังคงพึ่งพิงรายได้จาก 7-11 มากถึง 93% และการขยายสาขาของ 7-11 น้อยกว่าที่คาด

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X