ลงทุนในแบบเจ้าของกิจการจึงประสบความสำเร็จ

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเรายามนี้ก็ต้องถือว่ายังมีความน่าสนใจนะครับ โดยดัชนีได้มีการฟื้นตัวได้ดีขึ้นตามลำดับอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ยังมีความผันผวนอยู่บ้างโดยเฉพาะปัจจัยจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำเอาย่ำแย่ถดถอยกันทั่วโลก แม้จะเริ่มเห็นความหวังเรื่องการพัฒนาวัคซีนขึ้นมาได้บ้าง แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรที่จะกลับไปเหมือนก่อนเกิดวิกฤตในครั้งนี้

ในช่วงนี้สำหรับนักลงทุนอย่างเราๆควรเตรียมตัวอย่างไรดี การลงทุนที่แท้จริงนั้นมีหลากหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบถือยาว หรือลงทุนแบบเก็งกำไรก็ตาม ในที่นี้ขอพูดถึงการลงทุนแบบถือยาวเนื่องจากดูจะเหมาะกับภาวะตลาดในปัจจุบันนะครับ การลงทุนแบบถือยาวนั้นเปรียบเสมือนการลงทุนในมุมมองแบบเจ้าของกิจการ โดยเลือกที่จะศึกษาข้อมูลของบริษัทที่คิดจะลงทุนอย่างถ่องแท้ เพื่อให้รู้ว่ากิจการของบริษัทนั้นมีอนาคตที่ดี มีการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องหรือไม่

การที่กิจการของบริษัทจะทำกำไรให้ได้มากๆนั้น นอกจากการพิจารณาพื้นฐานของกิจการที่เราคิดจะลงทุนตามอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ แล้ว ระยะเวลาในการถือครองหุ้นก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะจะต้องนานเพียงพอที่จะได้เห็นถึงผลของการดำเนินงานของบริษัทที่จะสร้างรายได้ และกำไรให้กับกิจการ สำหรับหุ้นของบริษัทที่พื้นฐานดีนั้น ส่วนมากก็มักจะแข็งแกร่ง และทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปได้ คือเมื่อภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและบริษัทอื่น ๆ กำไรลดลงหรือว่าขาดทุน บริษัทที่แข็งแกร่งเหล่านี้ก็ยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ กำไรอาจจะเติบโตได้บ้าง หรืออย่างน้อยกำไรก็จะไม่ลดลง

แต่เมื่อถึงช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวและขยายตัวได้ดี บริษัทเหล่านี้ก็จะสามารถเพิ่มรายได้ และทำกำไรไปในทิศทางเดียวกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ จะปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับกำไรของบริษัท ซึ่งในภาวะที่ตลาดไม่ดีราคาหุ้นอาจจะตกลงไปบ้าง แต่ในช่วงที่ตลาดปรับตัวดีขึ้น ราคาหุ้นก็จะขึ้นมากกว่าราคาเดิมหรือทำนิวไฮใหม่ได้ เป็นอย่างนี้เรื่อยไป ดังนั้นถ้าเราถือหุ้นที่ดีพื้นฐานแกร่ง และอดทนรอคอยถือเป็นระยะเวลาที่นานพอ เราก็จะได้กำไรทั้งจากส่วนต่างราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นแล้วก็เงินปันผลตอบแทนที่บริษัทจ่ายให้เราในฐานะผู้ถือหุ้น ในที่สุด เราก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จจากการลงทุนได้มากกว่าล้มเหลว

อย่างไรก็ตามการที่จะดูว่าบริษัทไหนมีความแข็งแกร่งในธุรกิจของตนเองนั้น ซึ่งสามารถดูได้จากตัวเลขทางการเงินต่างๆ ทั้งทางด้านความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน และความต่อเนื่องของผลการดำเนินงานที่ดี เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งในด้านธุรกิจของบริษัทแล้วเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันว่าแพงหรือว่าถูก ถ้าเจอหุ้นที่มีลักษณะแบบนี้และราคายังถูกกว่าที่เราได้ประเมินเอาไว้ ก็ซื้อเก็บไว้ได้เลยครับ เมื่อเลือกซื้อหุ้นที่ดี มีความแข็งแกร่งพร้อมที่จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆได้แล้ว ต้องถืออดทนรอคอยผลตอบแทนคืนกลับอย่างงดงามได้เลย

อย่างไรก็ตามเงินส่วนที่เอามาลงทุนนั้น จะต้องเป็นเงินที่ไม่มีภาระ เป็นเงินเย็นๆที่ยังไม่จำเป็นจะเอาไปทำอะไร ก็จะทำให้การลงทุนของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะอย่างไรเสียหากตลาดโดยรวมยังไม่เป็นใจเราก็ยังได้รับเงินปันผลตอบแทนมากกว่านำเงินนั้นไปฝากไว้กับแบงก์เพื่อกินดอกเบี้ยพอสมควรเลยทีเดียว

สรุปการเลือกซื้อหุ้นโดยใช้มุมของความเป็นเจ้าของกิจการนั้น จะต้องพิจารณาให้ได้อย่างเข้าถึง รู้ลึกรู้จริงทั้งในส่วนของฐานะทางการเงิน และผลการดำเนินงาน ตลอดจนพิจารณา ประเมินได้ถึงมูลค่าแท้จริงของธุรกิจและดูราคาหุ้นว่ามีราคาที่เหมาะสมหรือราคาถูกกว่าความเป็นจริง ทั้งนี้เพื่อหวังผลตอบแทนที่มากกว่าปกติ และสร้างความมั่งคั่งให้กับการลงทุนของเราอย่างยั่งยืน ไม่ว่าภาวะตลาดโดยรวมจะเป็นเช่นใด โชคดีครับ