ทันหุ้น – HUMAN เผยช่วงโควิด-19 ยังมีลูกค้าใหม่ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้านลูกค้าเก่าระดับบิ๊กยังอยู่ครบรวมกว่า 3,000 บริษัท เผยอยู่ระหว่างทบทวนเป้าหมายรายได้จากผลกระทบโควิด-19 โดยมองว่าในปี 2564เป็นต้นไปจะมีการเติบโตที่ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด จะการรับรู้รายได้ของบริษัทที่เข้าไปลงทุน โบรกมองธุรกิจใหม่ที่เข้าลงทุนเอื้อให้อัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัวในไตรมาส 3/2563

นายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนนิก้า จำกัด (มหาชน) หรือ HUMAN เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีลูกค้าใหม่ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยเป็นบริษัทขนาดกลาง ส่วนลูกค้าเดิมที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ก็ยังคงเป็นลูกค้าอยู่ โดยบริษัทมีลูกค้ามากกว่า 3,000 บริษัท รวมถึงมีพนักงานของลูกค้าทั้งหมดที่ใช้บริการของบริษัทซอฟต์แวร์และบริการบริการเอาเอ้าท์ซอส (outsource) กว่า 700,000 ผู้ใช้

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างทบทวนเป้าหมายรายได้จากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 แต่เนื่องจากเป็นผลกระทบขนาดใหญ่ทั่วโลก ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังก็ยังเป็นเรื่องที่บริษัทจะพยายามผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าในปี 2564เป็นต้น ไปจะมีการเติบโตที่ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด

บริษัทได้ควบรวมกิจการ (M&A ) กับบริษัท Acquisition of TigerSoft ครบ 1 ปี โดย HUMAN ได้เข้าไปช่วยเรื่องรีแบรนด์ (rebranding) ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ช่วยออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับเอสเอ็มอี (SME) และสามารถขยายเข้าไปสู่ระบบหลังบ้านได้ (Total Back Office Services) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงไตรมาสที่ 3/2563

"สำหรับในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/2563บริษัทได้เข้าไปช่วยธุรกิจของไทเกอร์ในด้านฮาร์ดแวร์ โดยได้ออกผลิตภัณฑ์เวอร์ชั่นที่สามารถอ่านใบหน้า เผื่อจะได้ไม่เกิดการสัมผัสกับเครื่องเวลาเข้าสำนักงาน หรือเข้าออฟฟิศ ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นฮาร์ดแวร์โซลูชั่นสำหรับทุกองค์กรที่ต้องมีในอนาคต " นายสุนทร กล่าว

หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง บริษัท ฮิวแมนนิก้า จำกัด (มหาชน) หรือ HUMAN โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 9.10 บาท โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่3/2563 จะฟื้นตัว โดยบริษัทมีโอกาสขยายจำนวนลูกค้าได้อีกมาก รายได้จากธุรกิจใหม่และธุรกิจให้กู้จะเป็น Potential Upside ต่อราคาเป้าหมาย

แต่มีงวดไตรมาสที่ 2/2563 ยังมี Core Profit เท่ากับ 39 ล้านบาท ทรงตัวเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ลดลง 20% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งการลดลงจากไตรมาสที่ 1/2563 เป็นผลจากจำนวนลูกค้าลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ที่ถูกกระทบจากโควิด-19ส่วนกำไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายที่รวมรายการพิเศษอยู่ที่ 34 ล้านบาท ลดลง 7% เทียบกับปีที่ผ่านมา และลดลง 32% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา

รายได้จากการขายและบริการเติบโตเพิ่มขึ้น 24% เทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเพราะทำงบการเงินรวมกับ TigerSoft (ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ 1 ก.ค.2563) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาสที่ 2/2563 ลดลงเป็น 43.8% จาก 46.6% ในไตรมาสที่ 2/2562 เพราะอัตรากำไรขั้นต้นของ TigerSoft น้อยกว่า