ทันหุ้น –สู้โควิด –CPN ศึกษาโอกาสเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้ง มาเลเซีย เวียดนาม ขยายช่องทางสร้างรายได้เพิ่ม พร้อมทบทวนแผนการลงทุนและเป้าหมายธุรกิจในระยะ 5 ปีใหม่ ด้านโบรกส่องปีหน้ากำไรฟื้นตัวจากฐานต่ำ เล็งปรับขึ้นค่าเช่า และเตรียมเปิดโครงการ Mixed use แห่งใหม่ ในครึ่งปีหลัง 2564 หนุน ขณะที่ไตรมาส 3/2563 กำไรพุ่ง 431% จากไตรมาสก่อน หลังจากคลายล็อกดาวน์ เชียร์ซื้อเคาะเป้าหมาย 66 บาท

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มทั้งปี 2563 แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลง ศูนย์การค้าได้เปิดดำเนินการได้ตามประกาศรัฐ และเห็นการฟื้นตัวผู้มาใช้บริการ แต่คาดว่าผู้ประกอบการในศูนย์การค้าจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว รวมถึงผู้มาใช้บริการภายในศูนย์ ดังนั้นแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทอาจจะยังไม่ฟื้นตัวสู่ระดับปกติในปีนี้ โดยบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมปรับเปลี่ยนแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

*ทบทวนแผน5ปี-เล็งซื้อกิจการ

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนแผนการลงทุนและเป้าหมายธุรกิจในระยะ 5 ปี (2563-2566) โดยจะทบทวนแผนการพัฒนาในทุกโครงการ โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-Use) ทั้งส่วนที่ประกาศแผนพัฒนาแล้วและส่วนที่ยังไม่ได้ประกาศ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านฐานะการเงิน รักษากระแสเงินสดและสภาพคล่องให้เพียงพอต่อการองรับการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสภาพแวดร้อมที่ท้าทายจากโควิด-19

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ศึกษาโอกาสเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในสินทรัพย์และธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูง เพื่อให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดี นอกจากนี้ได้ศึกษาโอกาสลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศที่มีโอกาสและศักยภาพการเติบโต ทั้ง มาเลเซีย เวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อขยายช่องทางสร้างรายได้ใหม่ให้สอดคล้องกับแผนการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคต

*กำไร Q3/63 พุ่ง 431%

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึง CPN ว่า กำไรปกติ 9 เดือนปี 2563 คิดเป็น 98% ของคาดการณ์กำไรปีนี้ ทำให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการ ส่วนปีหน้าคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากฐานต่ำ และคาดว่าจะทยอยกลับมาปรับขึ้นค่าเช่าได้ตั้งแต่กลางปีหน้าเป็นต้นไป อีกทั้งมีการเปิดโครงการ Mixed use แห่งใหม่ในครึ่งปีหลัง 2564 ที่ อยุธยา และศรีราชา โดยให้ราคาเป้าหมาย (DCF) 66 บาท

ด้านกำไรสุทธิไตรมาส 3/2563 เท่ากับ 2,481 ล้านบาท (+431% จากไตรมาสก่อน, -12% จากปีก่อน) หากไม่รวมรายการพิเศษคือ กำไรเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน 119 ล้านบาท กำไรปกติเท่ากับ 2,362 ล้านบาท ดีกว่าที่คาดการณ์จากการที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงถึง 21% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้รายได้ค่าเช่าลดลง 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากยังมีการให้ส่วนลดค่าเช่าประมาณ 20% แต่ฟื้นตัว 73% จากไตรมาสก่อน หลังจากคลายล็อกดาวน์

โดยให้ส่วนลดค่าเช่าน้อยลง และจำนวนลูกค้าเข้าโครงการเฉลี่ย (Traffic) ฟื้นตัวมาที่มากกว่า 85% (ไม่รวมศูนย์การค้าในพื้นที่ท่องเที่ยว) โดยอัตราเข้าเช่าอยู่ที่ 92% เท่ากับปีก่อน อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 53 bps จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 49.3% แต่ฟื้นตัวอย่างมีนัยยะจาก 28.6% ในไตรมาส 2/2563 จากการควบคุมต้นทุน และค่าไฟลดลง ส่วนค่าใช้จ่ายลดลง 29% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะการทำกิจกรรมการตลาดซึ่งหันมาเน้นทางออนไลน์มากขึ้น

*ไตรมาส 4/63 ฟื้นต่อเนื่อง

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2563 ฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ยังลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากยังมีการให้ส่วนลดค่าเช่าอยู่บางส่วน แต่ส่วนลดจะค่อยๆ ลดลง อีกทั้งคาดว่า Traffic จะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 85%เนื่องจากเข้าสู่ช่วงเทศกาลและได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค ขณะที่การชุมนุมมีผลกระทบค่อนข้างจำกัด นอกจากนั้น CPN จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้น เนื่องจากการโอนโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงปลายปี จึงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 66 บาท