ทันหุ้น-NSI เดินแผนขยายเบี้ยรถบรรทุกมือสอง เหตุเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง เร่งเพิ่มพันธมิตรไฟแนนซ์ โดยเฉพาะไฟแนนซ์ท้องถิ่นในการขยายฐานลูกค้า รับสนใจตลาดประกันสุขภาพ แต่ต้องศึกษามากกว่านี้ หลังประกันไข้เลือดออกส่งสัญญาณเคลมสูง

นายอาชว์ ฟูศรีบุญ ผู้จัดการฝ่ายกิจการสาขา บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ NSI เปิดเผยถึงแผนการขยายงานของบริษัทว่า ปีนี้จะเน้นขยายตลาดประกันรถบรรทุกมือสองมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่ดีกว่ารถบรรทุกป้ายแดง โดยจะเน้นขยายฐานลูกค้าประกันภัยผ่านพันธมิตรที่เป็นไฟแนนซ์ ที่เน้นขยายตลาดรถบรรทุกมือสอง

“รถบรรทุกป้ายแดงนั้นค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับการเติบโตของรถบรรทุกมือสอง ทำให้เราเดินหน้าขยายตลาดในส่วนของพันธมิตรที่เป็นไฟแนนซ์มากขึ้น โดยเฉพาะตามหัวเมืองต่างจังหวัดที่มาสาขาของไฟแนนซ์เปิดให้บริการอยู่แล้ว อีกทั้งการเติบโตของธุรกิจขนส่ง หรือโลจิสติกส์ ทั้งในประเทศ และข้ามแดน ก็ช่วยหนุนให้แนวโน้มประกันรถบรรทุกของเรายังเติบโตได้ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19”

นายอาชว์ เล่าว่า ประกันรถบรรทุกถือเป็นความชำนาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะการขนส่งข้ามแดนที่ค่อนข้างมีความวับซ้อนในการเข้าไปรับปรันภัย บริษัทประกันภัยจะต้องมีพันธมิตรที่พร้อมให้บริการเวลาเกิดอุบัติเหตุในต่างประเทศ ต้องมีความรู้ในเรื่องของกฎหมายประเทศนั้นๆ ต้องประเมินความเสี่ยง และความคุ้มครอง ให้สอดคล้องกับเบี้ยประกัน รวมถึงความรู้ในเรื่องของอะไหล่รถบรรทุก

ปัจจุบันพอร์ตงานของNSI เป็นประกันรถยนต์ (Motor) 65% และกว่า 70% เป็นรถบรรทุก โดยรถบรรทุกมีอัตราค่าสินไหมทดแทน(Loss ratio)อยู่ที่ 57% ขณะที่ประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์(Non -Motor) มีสัดส่วน 35% ของพอร์ตรวมทั้งหมด ขณะที่ สาขาบริษัทมีอยู่ 27 สาขา รวมสำนักงานใหญ่ กระจายให้บริการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยแผนในอนาคต NSI ยังไม่มีโครงการเปิดสาขาเพิ่ม เพราะสามารถขยายงานผ่านพันธมิตรทางธุรกิจได้ เช่น ไฟแนนซ์ และโบรกเกอร์ เป็นต้น ส่วนตัวแทนนายหน้า มีอยู่ราว 7-8 พันคน และที่แอคทีฟ (Active) มีอยู่ประมาณ 5,000 คน

โดย NSI จะเน้นขยายพันธมิตรที่เป็นไฟแนนซ์ถ้องถิ่น หรือผู้ให้สินเชื่อรถในพื้นที่นั้นๆ มากขึ้น ทำให้ไม่ต้องลงทุนเปิดสาขาเพิ่ม ส่วนการให้บริการหลังการขาย บริษัทได้พัฒนาระบบเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชั่น “NSI Service” เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับ NSI ได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการเคลมสินไหม ทำให้บริษัทสามารถส่งพนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุดไปให้บริการได้ รวมถึงการแจ้งอู่ซ่อมในพื้นที่ใกล้เคียงที่ลูกค้าต้องการใช้การได้

นายอาชว์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาจะเห็นว่าตลาดประกันสุขภาพมีการเติบโตสูง ทั้งคุ้มครองโควิด-19 คุ้มครองโรคร้ายแรง เป็นต้น ในส่วนนี้ NSIก็มีความสนใจเช่นกันและที่ผ่านมามาการทดลองประกันสุขภาพ ในส่วนของประกันไข้เลือดออก  ซึ่งยอมรับว่ามีอัตราการเคลมสินไหมสูง อย่างไรก็ตามหากจะขยายตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น คงต้องทำการศึกษาในรายละเอียดมากกว่านี้

ทั้งนี้ประกันไข้เลือดออกที่มีการเคลมสินไหมสูงนั้น ส่วนหนึ่งคือผู้ที่เข้ามาซื้อความคุ้มครองจะรู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกจากการที่มีคนใกล้ตัว หรือคนในพื้นที่เจ็บป่วยด้วยโรคดังกล่าว ในขณะที่คนที่ไม่เห็นถึงความเสี่ยงก็จะไม่มาซื้อ ดังนั้นในแง่ของการบริหารจัดการความเสี่ยงของธุรกิจประกันภัยจะต้องมีข้อมูลในเชิงลึกที่สามารถประเมินความเสี่ยง และเบี้ยประกันภัยได้อย่างเหมาะสม คือเสี่ยงสูงเบี้ยก็ต้องสูง ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำเบี้ยก็ต้องถูก