ทันหุ้น – เจาะลึก 3 หุ้นอาหาร M-ZEN-AUกลับมาผงาดแค่ไหน หลัง ศบค. เคาะมาตรการขยายเวลานั่งกินในร้านอาหารถึง 5 ทุ่ม เชื่อ หนุนทราฟฟิกคนเดินห้างสูงขึ้น เคาะเป้า M  ที่ 55.50 บาท ZEN ราคาเหมาะสม 8.40 บท ขณะที่ AU มองไฮเดิม 11.80 บาท

หลังที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เห็นชอบตามข้อเสนอมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาด ทำให้ร้านอาหารที่เปิดนอกจังหวัดสมุทรสาคร สามารถเปิดได้เกิน 21.00 น. โดย พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ เปิดไม่เกิน 23.00 น.งดดื่มสุราในร้าน ส่วน พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 20 จังหวัด เปิดร้านอาหารและจำหน่ายสุราได้ ไม่เกิน 23.00 น. พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 17 จังหวัด เปิดร้านอาหารและดื่มสุราไม่เกิน 24.00 น. พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) ไม่จำกัดเวลา

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวเชื่อว่าจะส่งผลบวก ต่อกลุ่มหุ้นที่ทำธุรกิจอาหารซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นร้านอาหารอยู่ในห้างสรรพสินค้า โดยจะทำให้ประชาชน ผ่อนคลายความกังวลเรื่องการติดเชื้อ หากรัฐบาลสามารถควบคุมการติดเชื้อได้น้อยลง และมีความมั่นใจมากขึ้นในการเดินห้าง และจะช่วยหนุนทราฟฟิคการเข้าห้างสรรพสินค้าได้มากยิ่งขึ้น

***M จะกลับมาฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง

สำหรับหุ้นได้รับอานิสงส์โดยตรง ได้เเก่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ล่าสุดริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564คาดว่าจะฟื้นตัวแรง จากฐานที่ต่ำในปี 2563เนื่องจากได้รับผลกระทบ โควิด-19ที่เกิดขึ้นทำให้มีการปิดร้านไปช่วงเวลาหนึ่ง แต่แนวโน้มการฟื้นตัวที่ต่ำกว่าคาดหลัง โควิด-19ระบาดรอบใหม่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ ทำให้หดตัวมากกว่าที่คาดไว้ โดยฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับลดประมาณการผลการดำเนินงานในปี 2564 ลงจากเดิม คาดยอดขายจะอยู่ที่ 15,072ล้านบาทเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา ภายใต้ SSSG ติดลบประมาณ8-10%ส่วนแนวโน้มมาร์จิ้น แม้คาดฟื้นตัวเมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา แต่คงยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ

สำหรับส่วนแบ่งกันกิจกรรมร่วมค้าโดยเฉพาะในส่วนของ เอ็มเค-เซนโค ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันคาดว่าการได้ลูกค้าใหม่เพิ่มเติมอาจจะช้ากว่าที่ขาดจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าเดิม โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% เมื่อเทียบกับปีก่อน

อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์คลี่คลาย คาดว่าจะเห็นการดำเนินงานของบริษัทกลับมาฟื้นตัวได้แข็งแกร่งอีกครั้งนะราคาปัจจุบันทางฝ่ายวิเคราะห์ปรับรถคำแนะนำเป็นทยอยซื้อปรับราคาพื้นฐานลงเหลือ 55.50 บาท

*** มาตรการรัฐหนุน

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ระบุว่า เชื่อว่าผลประกอบการของ ZEN จะดีขึ้นในไตรมาสที่ 4/2563 เนื่องจากมีวันหยุดหลายวัน บวกกับมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ เชื่อว่า ZEN จะได้อานิสงส์ทางอ้อมจากการที่มีผู้มาใช้บริการศูนย์การค้ามากขึ้น เพราะมีนักช็อปมาซื้อสินค้า/บริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อน

ทั้งนี้ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 16.3% เนื่องจาก GPM ต่ำเกินคาดเพราะมีการจัดโปรโมชั่นราคาอย่างหนัก แต่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564-2565 เป็น 65-87 ล้านบาท จากเดิมที่ 45-82 ล้านบาท เพื่อสะท้อนถึงโครงการประหยัดต้นทุน โดยเราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อรายได้ในปี 2564-2565 จะอยู่ในช่วง 44.0%-44.3% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 45.5%-46.5% เชื่อว่า ZEN จะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลในระยะสั้น และจะได้ประโยชน์จากการปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนในระยะยาว ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564อยู่ที่ 8.40 บาท

*** AUแนวรับ 9.95 บาท

ทางด้านของ นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU  คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ จากการคลายล็อคกิจกรรมต่างๆ โดยฝ่ายกลยุทธ์ แนะลงทุน ”ซื้อเก็งกำไร” ทางเทคนิค แนวต้านมอง high เดิมที่ 11.80 บาท และแนวรับ 9.95 บาท โดยเห็นทิศทางเชิงบวกจากการพิจารณาคลายล็อกให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึงเวลา 23.00 น. จากปัจจุบันที่ให้นั่งได้ไม่เกินเวลา 21.00 น.หากพิจารณาคลายล็อกคาดจะช่วยสนับสนุนยอดขายตามสาขาในห้างสรรพสินค้าได้ดีกว่าที่ผ่านมา แต่เนื่องจากยังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน และผู้บริโภคอาจยังไม่เชื่อมั่นต่อการนั่งรับประทานอาหารในร้านมากนัก ทำให้ AU จะหันมาโฟกัสวิธีการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ Take away มากขึ้น

อย่างไรก็ดีฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกอีกประเด็นหนึ่ง ภายหลังบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เข้าซื้อบิ้กล็อต AU จำนวน 8.0919% จะทำให้มีการขยายสาขาแบบ Pop-up ตามสถานีรถไฟฟ้า BTS และช่วยลดต้นทุนค่าเช่าที่ รวมถึงการขายกาแฟแบรนด์ Mikka ที่จะช่วยหนุนยอด